สิ่งที่ไม่เคยพูด
บรรดาผู้นำหลายพรรคการเมือง เดินหน้าประกาศพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี รวมถึงออกประกาศนโยบายหาเสียงอย่างมากมาย
บรรดาผู้นำหลายพรรคการเมือง เดินหน้าประกาศพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี รวมถึงออกประกาศนโยบายหาเสียงอย่างมากมาย
นโยบายเหล่านี้จะเน้นปริมาณ จำนวนเงิน เช่น การลดภาษีมูลค่าเพิ่ม การแจกบัตรชาวนา การเรียนฟรี ฯลฯ ชนิดที่อาศัยแต่เงิน เงิน และเงิน
แต่นโยบายเชิงคุณภาพ แต่ละพรรคการเมืองกลับมีน้อยมาก หรือแทบไม่มี
อาทิ ไม่มีพรรคการเมืองใดประกาศว่า หากได้เป็นรัฐบาลจะให้ความสำคัญใน 3 กระทรวงหลัก คือ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) มากกว่ากระทรวงอื่นๆ
ไม่มีพรรคการเมืองใดประกาศจะจัดสรรงบประมาณให้ 3 กระทรวงหลักดังกล่าวมากเป็นพิเศษ โดยช่วงแรกจะให้เพิ่มในอัตราที่มากกว่ากระทรวงอื่นๆ และภายใน 4 ปี งบประมาณของกระทรวงเหล่านี้ต้องมากเป็นอันดับต้นๆ
และไม่มีพรรคการเมืองใดประกาศหลังการเลือกตั้ง หากได้เป็นรัฐบาลจะส่งคนดีสุด เก่งสุดเข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อสร้างรากฐานสำหรับประเทศชาติ
เพราะพรรคการเมืองทั้งหมด เมื่อได้เข้ามาสู่วงจรอำนาจ ต่างจับจ้องไปยังกระทรวงหลักๆ ที่มีงบประมาณมากๆ หรือมีผลประโยชน์มหาศาล อาทิ คมนาคม เกษตรและสหกรณ์ อุตสาหกรรม พาณิชย์ พลังงาน โดยละเลยกระทรวงที่เสริมสร้างมันสมองของประเทศ
มันไม่ต่างจากการเบ่งเค้ก หรือนั่งล้อมวงเปิบขันโตก ปล่อยให้ประชาชนที่ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งทำตาปริบๆ กับการเริ่มบริโภค ก่อนเข้าสู่มหกรรมชักหัวคิว 30%
เมื่อเป้าหมายอยู่ที่การงาบ งับ ในกระทรวงที่อุดมด้วยเงินตรานโยบายหาเสียงที่ออกมาจึงเป็นอย่างที่เห็น ทั้งการแจก การขึ้นเงินเดือน ค่าแรง ถมทะเลสร้างเมือง เรียนฟรี ตรึงราคาน้ำมัน ก๊าซ ฯลฯ เพื่อหวังล่อใจ สร้างคะแนนนิยม
ทิศทางของการเมืองวนอยู่ที่การแสวงหาอำนาจและเงิน พอวีซ่าหมดอายุก็ต้องการกลับสู่อำนาจใหม่ ด้วยวิธีใช้เงิน ผลประโยชน์เป็นเครื่องล่อ ทั้งการแจกเงินซื้อเสียง แจกในรูปนโยบายประชานิยม
หลังเลือกตั้งและแบ่งกระทรวงกันเสร็จเมื่อใด คอยดูเถอะ
จะเห็นการงาบ งับ จนสะดือปลิ้น หายเหนื่อย