posttoday

นิรโทษกรรมอันตราย

26 พฤษภาคม 2554

พรรคเพื่อไทยดูเหมือนจะได้เปรียบทางการเมือง

พรรคเพื่อไทยดูเหมือนจะได้เปรียบทางการเมือง

โดย..ณ กาฬ เลาหะวิไลย 

เมื่อโพลทุกสำนัก รวมถึงพรรคการเมืองทุกพรรค ต่างยอมรับว่าหลังการเลือกตั้งจะได้ สส.มาเป็นอันดับ 1

หากเพื่อไทยได้ สส.เกินครึ่ง ก็ย่อมเป็นรัฐบาล ถ้าไม่ได้เกิน ก็ต้องดึงพรรคเอสเอ็มอี ขนาดเล็ก ขนาดกลาง มาเป็นพวก

แต่กว่าจะไปถึงวันนั้น ยังมีคำถามตัวใหญ่ๆ ที่พรรคเพื่อไทยต้องตอบ โดยเฉพาะประเด็นการนิรโทษกรรมทางการเมือง

สิ่งที่เปิดเผยออกมาก็คือ ภายหลังการเลือกตั้งหากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะผลักดันออกกฎหมายนิรโทษกรรม และแน่นอนว่าจะเป็นช่องทางให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีโอกาสกลับประเทศไทย

พรรคเพื่อไทย อธิบายว่า การนิรโทษกรรมไม่ได้ทำเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ คนเดียว แต่คนอื่นๆ ไม่ว่าฝ่ายไหน สีไหน ก็ได้ประโยชน์

นี่แหละ จะกลายเป็นระเบิดลูกใหญ่

เพราะแนวทางการนิรโทษกรรม แม้จะอธิบายอย่างไร เป้าใหญ่ต่างถูกมองไปที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ขณะที่คนอื่นๆ เป็นแค่องค์ประกอบ

พรรคเพื่อไทยต้องอธิบายให้ชัด การนิรโทษกรรมเป็นอย่างไร จะขีดเส้น กำหนดวัน ขอบเขตที่ตรงไหน ให้สังคมชั่งน้ำหนักว่าระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณ และตัวประกอบอื่นๆ ใครได้มากกว่ากัน

ที่สำคัญอีกก็คือ กฎหมายนิรโทษกรรมจะเป็นการกระทำที่ล่วงละเมิดอำนาจฝ่ายตุลาการหรือไม่

อย่าลืม คดีความต่างๆ หลายคดี โดยเฉพาะที่เกี่ยวเนื่องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งคดีอาญาและคดียึดทรัพย์ ต่างสิ้นสุดลงที่คำตัดสินของศาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลแล้วออกกฎหมายที่มีผลต่อการตัดสินคดีที่สิ้นสุดลง ก็เท่ากับใช้อำนาจบริหารไปก้าวก่ายอำนาจตุลาการ

บ้านเมืองนี้จะเละตุ้มเป๊ะ ด้วยเหตุที่ฝ่ายการเมืองเข้ามาละเลงจนอำนาจอธิปไตยทั้ง 3 ได้แก่ อำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการ ถูกแทรกแซงจนหมด

และระบบการเมืองก็สุ่มเสี่ยงจะเข้าสู่ยุคแห่งความเหิมเกริมในอำนาจอีกครั้ง โดยไร้ระบบคานดุลหลงเหลืออยู่

ทั้งหมดทำให้ย้อนกลับไปนึกถึงช่วงปลายยุครัฐบาลไทยรักไทยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกฯ ไม่ได้ โดยขณะนั้นอำนาจการเมืองแผ่ซ่านเกินขอบเขต จนในที่สุดเหลือเพียงอำนาจเดียวที่เข้ามาสะกด เว้นวรรคอำนาจการเมืองเอาไว้ นั่นคือ ทหาร

ใจคอจะเอาล่อเอาเถิดไปถึงขั้นนั้นเชียวหรือ???