ฮุนเซนยันไม่ถอนทหารพื้นที่พิพาท
ฮุนเซน อ่านเเถลงการณ์ต่อผู้นำอาเซียน ยืนยัน ไม่ถอนทหารออกจากพื้นที่พิพาท จวกไทยไม่มีเหตุผล ยอมรับเงื่อนไขไม่ได้ ด้านอภิสิทธิ์แจงไม่เคยรุกรานเขมร พร้อมแก้ปัญหาอย่างสันติ หวังอีกฝ่ายเดินหน้าเจรจา
ฮุนเซน อ่านเเถลงการณ์ต่อผู้นำอาเซียน ยืนยัน ไม่ถอนทหารออกจากพื้นที่พิพาท จวกไทยไม่มีเหตุผล ยอมรับเงื่อนไขไม่ได้ ด้านอภิสิทธิ์แจงไม่เคยรุกรานเขมร พร้อมแก้ปัญหาอย่างสันติ หวังอีกฝ่ายเดินหน้าเจรจา
นายฮุนเซ็น นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวในที่ประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 18 ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ในช่วงเช้าวันนี้ว่า ข้อเรียกร้องของไทยที่ต้องการให้ถอนทหารออกจากพื้นที่พิพาทบริเวณชายแดนระหว่างสองประเทศนั้น "ไม่มีเหตุผลและไม่สามารถยอมรับได้"
''เงื่อนไขนี้ไม่มีเหตุผลและยอมรับไม่ได้ จริงๆ แล้ว เป็นประเทศไทยเองที่จะต้องถอนทหารจากบริเวณใกล้เคียงพื้นที่พิพาท ตามการตัดสินของศาลอาญาระหว่างประเทศที่กรุงเฮก เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.2505" ฮุนเซ็น กล่าว
สำนักข่าวเกียวโด รายงานว่า นายกฯกัมพูชาได้กล่าวแถลงการณ์หกหน้าต่อบรรดาผู้นำอาเซียน โดยมุ่งเน้นไปที่การสู้รบระหว่างกัมพูชากับไทยบริเวณชายแดน รวมถึงประเด็นระดับภูมิภาคอื่นๆ อาทิ ความขัดแย้งระหว่างสมาชิกชาติอื่นๆ และจีนในทะเลจีนใต้ และการก่อการร้าย
นายฮุนเซ็น ระบุว่า การสู้รบบริเวณชายแดนไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่อสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาคเท่านั้น แต่ยังอาจสร้างปัญหาร้ายแรงสำหรับอาเซียนในการเดินหน้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในปี 2558
อีกทั้งยังได้เรียกร้องให้ผู้นำอาเซียนสนับสนุนและผลักดันมาตรการที่จำเป็นให้เดินหน้า เพื่อทำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันและยอมรับคณะผู้สังเกตการณ์ที่ปราศจากอาวุธมาประจำพื้นที่พิพาทบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
"เกียรติภูมิและความน่าเชื่อถือของอาเซียนจะตกอยู่ในความเสี่ยงสูง ถ้าความพยายามในการหยุดยิงถาวรไม่เกิดขึ้นตามแผนการที่วางไว้" ฮุนเซ็นกล่าวเตือนในตอนท้าย
ด้าน นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในเวทีการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 18 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้ข้อมูลต่อที่ประชุมอาเซียน ประเด็นปัญหาข้อพิพาทไทย-กัมพูชา หลังจากที่ฯษญฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวหาไทยใช้กำลังรุกราน ในเวทีการประชุมสุดยอดอาเซียนก่อน โดยนายกรัฐมนตรีให้ข้อมูลว่า ไทยต้องการแก้ไขปัญหาตามกลไกที่มีอยู่ โดยไม่รุกรานใคร แต่กัมพูชาพยายามนำปัญหานี้เข้าสู่ระดับสากล ขณะที่ประเทศสมาชิกอาเซียนส่วนใหญ่ให้ความเห็นอย่างกว้างขวาง โดยยึดมั่นในหลักสันติที่จะแก้ไขปัญหาลักษณะที่ไม่ใช้กำลัง และหวังว่าไทยกับกัมพูชาจะมีการพูดคุยกัน
อย่างไรก็ตาม หลังจากนายกรัฐมนตรีให้ข้อมูลกับที่ประชุมสุดยอดอาเซียน ทำให้บรรยากาศการประชุมคลี่คลายลง และเชื่อว่า หากไทยกับกัมพูชามีการพูดคุยกัน จะทำให้มีความชัดเจนในการแก้ไขปัญหามากขึ้น