posttoday

ตราบาปตรึงดีเซล

20 เมษายน 2554

ไม่ผิดความคาดหมายแม้แต่น้อย เมื่อรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตัดสินใจตรึงราคาน้ำมันดีเซลต่อไปอีก โดยเป็นการตรึงราคาที่จะถูกบันทึกเป็นตราบาปตลอดไป

ไม่ผิดความคาดหมายแม้แต่น้อย เมื่อรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตัดสินใจตรึงราคาน้ำมันดีเซลต่อไปอีก โดยเป็นการตรึงราคาที่จะถูกบันทึกเป็นตราบาปตลอดไป

รัฐบาลอภิสิทธิ์ เคยโจมตีรัฐบาลเก่าตรึงราคาน้ำมันจนกองทุนน้ำมันฯ เป็นหนี้มโหฬาร 8-9 หมื่นล้านบาท และประกาศอย่างลำพองตลอดมาจะไม่เดินซ้ำรอย

แต่รัฐบาลอภิสิทธิ์กำลังเดินไปในเส้นทางเดิม

มิหนำซ้ำต้องพูดว่าเป็นนโยบายที่เลวกว่าเดิมด้วยซ้ำ

สาเหตุเนื่องจากรัฐบาลในอดีตตรึงราคาน้ำมัน โดยใช้กองทุนน้ำมันฯ แบกรับภาระ จากนั้นเมื่อเกิดการปฏิวัติ รัฐบาลชุดใหม่ที่เข้ามาก็ใช้วิธีเพิ่มเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ในช่วงน้ำมันราคาลด เพื่อใช้หนี้จนหมด

หรืออธิบายง่ายๆ ว่า เดิมการตรึงราคาน้ำมัน คนที่ได้ประโยชน์มากสุดคือคนขับรถ ก็ต้องเก็บเงินจากคนขับรถมาใช้หนี้ที่เกิดขึ้น

ทว่า รัฐบาลอภิสิทธิ์ไม่ได้ใช้กองทุนน้ำมันฯ แบกรับภาระ แต่กลับใช้เงินภาษีเข้าไปอุ้มโดยตรง เป็นวงเงินถึง 4.4 หมื่นล้านบาท

นี่แหละ บรมห่วย ไม่รู้จะสรรหาคำใดมาพูด

ภาษีที่เก็บได้ สมควรจะใช้สำหรับการพัฒนาประเทศ ไม่ใช่ตรึงราคาน้ำมันดีเซล ซึ่งใช้แล้วหมดเปลือง และยิ่งทำให้คนไม่ประหยัด

วินัยการคลัง ที่รัฐบาลเคยประกาศจะยึดถือ กลับโดนน้ำลายถ่มถุยใส่ แล้วเอาเท้าขยี้ จากนโยบายใช้เงินภาษีตรึงราคาน้ำมันไปเรียบร้อย

สาเหตุทั้งปวง เกิดจากการที่อภิสิทธิ์ประกาศจะยุบสภาฯ ในเดือน พ.ค. และเลือกตั้งใหม่ในเดือน มิ.ย. จึงเกรงกลัวว่า หากขึ้นราคาน้ำมัน คะแนนเสียงรัฐบาลจะหดหาย

วินัยการคลัง ต้องถูกลบด้วยเท้า เหลือเพียงวินัยการเมือง ขอแจกเพื่อคะแนนเสียงอย่างเดียว

นี่แหละไม่ว่าเหลี่ยมหรือหล่อ พอจะหาเสียงก็ทำครือๆ กัน