posttoday

ฤดูผสมเทียม

15 เมษายน 2554

ตั้งแต่ช่วงก่อนสงกรานต์ และแม้กระทั่งช่วงสงกรานต์

ตั้งแต่ช่วงก่อนสงกรานต์ และแม้กระทั่งช่วงสงกรานต์

สิ่งที่ปรากฏให้เห็นในแวดวงการเมืองก็คือ การวิ่งวุ่นของบรรดานักการเมืองในการเข้าสู่ ขบวนการผสมเทียม

การผสมเทียมที่ว่า นั่นคือการย้ายพรรค การดูดพรรคนู้นมาใส่พรรคนี้ โดยเฉพาะความเคลื่อนไหวอย่างคึกคักในพรรคขนาดกลางและขนาดเล็ก

เพราะหลักการเลือกตั้งใหญ่ การเมืองยังแบ่งเป็น 2 ซีก ระหว่าง พรรคประชาธิปัตย์ กับ พรรคเพื่อไทย ชนิดที่ว่าคะแนนอาจจะทิ้งกันไม่ขาด

และตัวแปรสำคัญจึงกลายเป็นพรรคขนาดกลาง ขนาดเล็ก หากเข้าข้างใด ข้างนั้นก็จะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ

สูตรสำเร็จทางการเมืองก็คือ สส. 5 คน เอารัฐมนตรีไป 1 ตำแหน่ง

บรรดาพรรคเอสเอ็มอีจึงต้องเร่งสร้างราคาด้วยการเบ่งจำนวน สส.ให้มากขึ้น

หนทางที่จะสร้างฐาน สส. โดยหวังพึ่งวิธีธรรมชาติ ไปสร้างคะแนนนิยมคงไม่ทัน จึงจำเป็นต้องใช้วิธีผสมเทียมสร้างตัวอ่อนได้อย่างรวดเร็ว อย่างที่ว่า

และถ้าสังเกตใด้ดี บรรดานักการเมืองที่กำลังโยกย้ายพรรคชุลมุนวุ่นวาย ส่วนใหญ่ล้วนแต่เป็นขาประจำซำเหมา ระเหเร่ร่อนจากพรรคหนึ่งไปพรรคหนึ่งแทบทั้งสิ้น คราวนี้เมื่อจะเกิดรายการยุบสภาฯ จึงเกิดการย้ายพรรค ยุบพรรค ผสมข้ามพรรคให้เห็น

เชื่อเถอะ การผสมเทียมอีรอบนี้ก็จะไม่อยู่คงทน หากมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง บรรดานักการเมืองซำเหมา มักจะโยกย้ายไปอยู่ที่แห่งใหม่อีกเช่นเคย

มันจึงเป็นการผสมเทียมทางการเมือง ใช้น้ำเชื้อเพาะพันธุ์พรรคการเมือง เพียงหวังให้เกิดตัวอ่อนขึ้นอย่างรวดเร็วเท่านั้น

และตัวอ่อนที่ว่า จะเป็นมีลักษณะพิเศษ คือ สหเพศ หรือยูนิเซ็กซ์ ไม่หญิงไม่ชาย สามารถไปเสียบอยู่กับแกนนำซีกใดก็ได้

การเมืองไทยหลังเลือกตั้ง จึงยังคงไม่พ้นวนเวียนน้ำเน่าระบบแบ่งปันส่วน

ใครมือยาวสาวได้สาวเอา ใครมี สส.ในมือ เอาเก้าอี้รัฐมนตรีไป เป็นรายการสมทบทุนป้องกันอาการอดอยากปากแห้งได้อย่างชะงัด

ต้นทุนประชาธิปไตยยังคงเพิ่มพูน

การเมืองเพื่อประชาชนจึงเป็นแค่นิยายขายฝัน

ก็เห็นอยู่แล้วเพียงแค่ขยับจะเลือกตั้ง ขบวนการผสมเทียมทางการเมืองก็ปรากฏ เตรียมพร้อมเพื่อหวังเข้ามาสู่อำนาจบริหารประเทศ

ก็อะไรมันจะอร่อยเท่าร้อยชักสามสิบไปอีกเล่า