posttoday

เย้ยเด็กเพื่อไทยหนุนยิ่งลักษณ์หวังแค่กระสุนนายใหญ่

14 เมษายน 2554

“โฆษกมาร์ค” ซัด เพื่อไทยหนุน “ยิ่งลักษณ์” เป็นแคนดิเดตนายกฯ หวังแค่ กระสุนจากนายใหญ่ เตือนเอานักธุรกิจมาบริหารประเทศ คิดการเมืองแบบชั้นเดียว ชาติอาจถึงทางตันได้

“โฆษกมาร์ค” ซัด เพื่อไทยหนุน “ยิ่งลักษณ์” เป็นแคนดิเดตนายกฯ หวังแค่ กระสุนจากนายใหญ่ เตือนเอานักธุรกิจมาบริหารประเทศ คิดการเมืองแบบชั้นเดียว ชาติอาจถึงทางตันได้

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัว หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่สมาชิกพรรคเพื่อไทยชู น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นเป็นแคนดิเดตนายกฯ เพราะเป็นคนเก่ง คนสวย และสามารถพาพ.ต.ท.ทักษิณกลับบ้านได้ว่า การคัดเลือกผู้นำประเทศไม่ใช่เป็นเวทีประกวดชายหล่อ หญิงสวย แต่จะต้องใช้ความรู้ความสามารถและประสบการณ์ทางการเมืองมาตัดสินว่าจะนำพาประเทศชาติไปได้หรือไม่ การอ้างความสามารถของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ว่า ประสบความสำเร็จทางธุรกิจก็ยังไม่เห็นว่ามีผลงานด้านธุรกิจอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน นอกจากมาดูแลธุรกิจให้กับพี่ชาย การที่นักธุรกิจเข้ามาสู่วงการทางการเมืองทำให้สังคมได้รับบทเรียนมาหลายครั้ง

“ความคิดแบบนักธุรกิจคือเรื่องกำไร ขาดทุน การทำการเมืองโดยใช้เงินทุนเป็นหลักเมื่อมีการลงทุนก็ต้องมีการถอนทุนเป็นธรรมดาเหมือนกับยุคที่พ.ต.ท.ทักษิณที่บอกว่าประสบความสำเร็จทางธุรกิจรวยแล้วไม่โกง แต่ในที่สุดก็เห็นกันอยู่ว่าคนยิ่งรวยก็ยิ่งโกงได้  วงการเมืองและบ้านเมืองเสียหายมากก็ในยุคที่มีนักธุรกิจเข้ามาเล่นการเมือง ซึ่งก่อนหน้านี้วงการเมืองไม่มีเรื่องการลงทุนหรือการใช้จ่ายหัวละ 30-50 ล้านบาทต่อส.ส.1 คนแต่อย่างใด ดังนั้น จึงอยากเตือนสมาชิกพรรคเพื่อไทยที่สนับสนุนน.ส.ยิ่งลักษณ์ขึ้นเป็นนายกฯ ว่าอย่าหวังแต่กระสุนจากนายใหญ่โดยลืมมองถึงอนาคตทางการเมืองของประเทศ เชื่อว่าถ้าคิดการเมืองแบบชั้นเดียวก็อาจจะทำให้การเมืองถึงทางตันได้” นายเทพไทกล่าว

ส่วนการอ้างว่าที่สนับสนุนน.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ เพราะสามารถพาพ.ต.ท.ทักษิณกลับบ้านได้นั้น แสดงให้เห็นว่าพรรคเพื่อไทยมีเป้าหมายทางการเมืองเพียงเรื่องเดียวคือเอาพ.ต.ท.กลับประเทศให้ได้ ไม่ว่าความเสียหายอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม และคงจะไม่ไว้ใจคนอื่นๆ ในพรรคจึงสนับสนุนน้องสาวขึ้นมา

ขณะที่เรื่องความผิดหวังของนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ที่พ.ต.ท.ทักษิณไม่ยอมสนับสนุนให้เป็นแคนดิเดตทั้งๆ ที่ประกาศตัวในสภาไปแล้วนั้น ก็คงจะไม่แยกตัวไปตั้งพรรคใหม่ เพราะขนาดคนอย่างร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่ประกาศตัวเป็นดาวกฤกษ์ก็ยังไม่กล้า แล้วคนอย่างนายมิ่งขวัญที่เป็นแค่หิ่งห้อยจะกล้าไปตั้งพรรคการเมืองใหม่หรือ ถึงแม้ว่าในขณะนี้คนในพรรคเพื่อไทยจะเรียงหน้าออกมาผลักไสไล่ส่งให้ออกจากพรรค จนบางคนในพรรคออกมาเยาะเย้ยว่าไม่มีทางไป และสร้างข่าวขึ้นมาเพื่อต่อรองภายในพรรคเท่านั้นเอง

นายเทพไท ยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยประกาศเปิดนโยบายที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิตในวันที่ 23 เม.ย.นี้นั้น ถือว่าเป็นเรื่องของการเชื่อดวงและไสยศาสตร์อย่างชัดเจน เพราะสมาชิกพรรคยอมรับว่าที่ใช้ศูนย์ธรรมศาสตร์เพราะฮวงจุ้ยดี และการเปลี่ยนวันประกาศจากเดิมวันที่ 24 เป็นวันที่ 23 เม.ย.แค่หนึ่งวันก็เป็นเพราะหลีกหนีวันโลกาวินาศจริง เพราะหากเป็นเรื่องความไม่พร้อมก็น่าจะเลื่อนออกไปหลายวันมากกว่านี้ เป็นการแสดงให้เห็นว่าพรรคเพื่อไทยหลงงมงายกับโหราศาสตร์ ไสยศาสตร์และดวงชะตาของชีวิต