จุติ ยัน ​กสท ทำสัญญา ทรูมูฟ ไม่มีทุจริต
รมว.ไอซีที ยัน กสท ทำสัญญา ทรูมูฟ ไม่มีทุจริต แจง เปรียบระบบซีดีเอ็มเอเป็นเอชเอ็สพีเอ ประหยัด 2.3 หมื่นล้าน
รมว.ไอซีที ยัน กสท ทำสัญญา ทรูมูฟ ไม่มีทุจริต แจง เปรียบระบบซีดีเอ็มเอเป็นเอชเอ็สพีเอ ประหยัด 2.3 หมื่นล้าน
นายประเกียรติ นาสิมมา สส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ตั้งกระทู้ถามสดเรื่อง การทุจริตกรณี กสท. ทรูมูฟ ว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนว่าก่อนที่ ครม.จะอนุมัติให้ กสท ซื้ออุปกรณ์เครือข่ายจากบริษัท บีเอฟเคที ของฮัทช์ 7,500 ล้านบาท ได้มีกลุ่มบุคคลไปทำเอ็มโอยูแบ่งผลประโยชน์ล่วงหน้า โดยได้ทำเอ็มโอยู 2 ฉบับ ฉบับหนึ่งทำโดยตรงว่าจะซื้อ อีกฉบับเป็นเอ็มโอยูแบ่งผลประโยชน์
ทั้งนี้ ก่อนนำเรื่องเข้า ครม.วันที่ 7 เม.ย.53 นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง ได้ทำหนังสือ ระบุว่า ราคาที่จะซื้อ สูงเกินกว่าที่บริษัทกสท ประมูลทางอิเล็กทรอนิกในการสร้างสถานีฐาน จำนวน 1,600 สถานี มูลค่า 7,900 ล้านบาท แต่ราคาที่ซื้อจากบีเอฟเคทีจำนวน 800 สถานีฐานมีมูลค่าถึง 7,500 ล้านบาท เมื่อคำนวณแล้วราคาเฉลี่ยสถานีฐานละ 9 ล้านบาท แตกต่างจากราคาสร้างสถานีฐานของบริษัทกสท ถึง 7 ล้านบาท
นายประเกียรติ กล่าวว่า รมว.ไอซีที ทำหนังสือถึง ครม. ลงวันที่ 24 ธ.ค.53 ขอให้ ครม.มีมติยกเลิกระบบ ซีดีเอ็มเอ กับบริษัทฮัทช์ และเปลี่ยนมาเป็น เอชเอสพีเอ ของทรูมูฟ โดยอ้างว่า การบอกเลิกสัญญากับบริษัทฮัทช์ เนื่องจากคณะกรรมการกฤษฎีกาเคยวินิจฉัยว่าผิดพ.ร.บ.ร่วมลงทุน 2535 แต่กลับมีการทำสัญญาในลักษณะเดียวกันกับบริษัททรู ไม่ทราบว่ามีเหตุผลอะไร
ด้านนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว. ไอซีที กล่าวว่า กสทไม่ได้ทำผิดกฎหมาย และไม่มีการทุจริตตามข้อกล่าวหา แต่หาก นายประเกียรติ มีข้อมูล ขอให้ส่งมาตนพร้อมตรวจสอบ หากพบว่าเป็นจริงจะดำเนินการทันที ส่วนกรณีการทักท้วงเรื่องการทำสัญญาแพงเกินจริงระหว่าง กสท กับ ฮัทช์นั้น ตนเองมาเป็น รมว.ไอซีที หลังเดือน เม.ย. จึงไม่ทราบเรื่องก่อนหน้านั้น
อย่างไรก็ตาม หลังจากตนเองเข้ามาเป็น รมว.ไอซีที ได้มีการรื้อราคาที่แพงเกินจริง ให้เจรจาต่อรองว่าสัญญาเช่าอุปกรณ์เครือข่ายไม่ควรเกิน 4,000 ล้านบาท ทำให้ตกลงกันไม่ได้ จึงไม่ได้มีการทำสัญญาแต่อย่างใด ทำให้บริษัทฮัทช์ ไปตกลงขายให้กับบริษัทอื่น อีกทั้งตนเองได้เสนอให้มีการเปลี่ยนระบบจาก ซีดีเอ็มเอ เป็นเอชเอสพีเอ โดยไม่ต้องลงทุน ทำให้ประหยัดงบประมาณได้ถึง 2.3 หมื่นล้านบาท
นายจุติ กล่าวว่า ค่าเช่าสถานีฐานแพงนั้น ทางฝ่ายผู้บริหารของ กสท.ยืนยันว่า ที่ปรึกษาทางด้านการเงินได้เปรียบเทียบค่าเช่าสถานีกับบริษัทเอไอเอส และดีเทค ซึ่งพบว่าราคาดังกล่าวต่ำกว่ามาตรฐาน ส่วนกรณีที่ระบุว่าการขัดกันของพ.ร.บ.ร่วมทุนระหว่าง กสท กับ ฮัทช์ ไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้ เพราะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และยืนยันว่าสัญญาระหว่าง กสท กับทรูมูฟ ไม่ขัด พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ