มาร์คยันไม่เสียสมาธิม็อบตามป่วน
นายกฯขอหารือกกต.11มี.ค.ก่อนให้ความชัดเจนวันเลือกตั้ง ยันไม่เสียสมาธิในการทำงานหลังถูกตามก่อกวน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องการกำหนดวันยุบสภาจะมีความชัดเจนหลังจากที่ตนเองจะไปพบกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรื่องระเบียบที่ต้องสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญที่แก้ไขใหม่ใน วันที่ 11 มี.ค.นี้ เพราะไม่สามารถประกาศล่วงหน้าได้ เพราะหากประกาศไปแต่ กกต.ยังไม่พร้อมอาจจะมีปัญหา อาจจะไม่เป็นธรรมกับกกต. ดังนั้น หากกกต.มีคำตอบให้ตนเองชัด ตนเองก็จะคงจะตอบได้ชัดเหมือนกัน
นายกฯขอหารือกกต.11มี.ค.ก่อนให้ความชัดเจนวันเลือกตั้ง ยันไม่เสียสมาธิในการทำงานหลังถูกตามก่อกวน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องการกำหนดวันยุบสภาจะมีความชัดเจนหลังจากที่ตนเองจะไปพบกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรื่องระเบียบที่ต้องสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญที่แก้ไขใหม่ใน วันที่ 11 มี.ค.นี้ เพราะไม่สามารถประกาศล่วงหน้าได้ เพราะหากประกาศไปแต่ กกต.ยังไม่พร้อมอาจจะมีปัญหา อาจจะไม่เป็นธรรมกับกกต. ดังนั้น หากกกต.มีคำตอบให้ตนเองชัด ตนเองก็จะคงจะตอบได้ชัดเหมือนกัน
“ผมยังอยู่ในตำแหน่งก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด โดยเฉพาะเรื่องเลือกตั้ง จะต้องจังหวะเวลาที่เหมาะสมและดีกับประเทศมากที่สุด ผมยืนยันว่าประเทศต้องเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้ง เพราะการที่มีรัฐบาลใหม่ จะกำหนดทิศทางการแก้ปัญหาได้ดีกว่า ดังนั้นเราต้องเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง และเชื่อแม้ว่าจะมีประกาศยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้งไปแล้ว ก็จะยังมีการชุมนุมทางการเมืองอยู่ เพราะบางกลุ่มไม่อยากให้มีการเลือกตั้ง โดยรัฐบาลพยายามเต็มที่ที่จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เดือนเมษาแบบ 2 ปีที่ผ่านมา เพราะทุกคนควรมุ่งไปสู่การเลือกตั้ง“ นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายกฯ กล่าวด้วยว่า เรื่องที่ตนเองถูกก่อกวนระหว่างปฏิบัติหน้าที่นั้น เห็นได้ชัดว่าฝ่ายค้านและกลุ่มคนที่กระทำการดังกล่าวต้องการให้เกิดภาพความขัดแย้งทางการเมืองไม่จบไม่สิ้น เพื่อให้เกิดความวุ่นวาย ซึ่งตนมีหน้าที่แก้ปัญหาก็ต้องทำไปยืนยันว่า ไม่เสียสมาธิในการทำงานแต่อย่างใด คนที่มาตะโกนก็คงอยากเป็นข่าวเท่านั้น เพื่อเบี่ยงประเด็นจากการทำงานของตนเอง ดังนั้นประชาชนต้องพิจารณาเอาว่าจะเลือกคนทำงานหรือคนที่ขัดขวางการทำงาน ซึ่งในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ก็พร้อมที่จะลงพื้นที่ แต่คิดว่ายังไม่มีอะไรรุนแรง ส่วนจะถึงขั้นทำร้ายกันเหมือนที่เคยเกิดขึ้นหรือไม่นั้นคงไม่สามารถประมาทได้เพราะเป็นความเสี่ยงของอาชีพนี้อยู่แล้ว
ทั้งนี้ยังไม่ได้มองว่าจะทำให้การยุบสภาเลื่อนออกไปหรือไม่ เพราะตนเองต้องการแก้ปัญหาให้กับประเทศและความเดือดร้อนเรื่องข้าวของแพง การกระตุ้นให้เกิดรายได้กับประชาชนก่อน เพราะฉะนั้น เป็นหน้าที่ของทุกฝ่ายที่จะต้องช่วยกัน โดยส่วนตัวได้หารือ กับ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ไปเป็นพยานให้กับการประกันแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เพราะหวังความสงบเรียบร้อย ดังนั้น พล.ต.สนั่น ต้องมาช่วยแก้ไขปัญหาด้วย
นายกฯ กล่าวว่า การทำงานที่เหลืออยู่นี้เป็นไปตามสภาพความเป็นจริงไม่ใช่เพื่อคะแนนเสียง เพราะหากต้องการคะแนนเสียงคงเพิ่มราคาประกันราคาข้าวเป็น 1.4หมื่นบาทไปแล้ว แต่ในความเป็นจริงเพิ่มได้เพียง 1,000 บาท เท่านั้น รวมถึงราคาน้ำมันดีเซลรัฐบาลไม่ต้องการให้กองทุนน้ำมันติดลบก็ต้องหามาตรการอื่นมาแก้ไขแทน
นายกฯบอกว่าเหตุที่มีการประกาศพื้นที่รอบบ้านตนเองเป็นพื้นที่ความมั่นคง เพราะมีกลุ่มคนบางกลุ่มไปชุมนุมแถวนั้นตอนที่ตนเองไม่อยู่ จนสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนที่อยู่บริเวณนั้น ซึ่งการบังคับใช้กฎหมายตรงนี้จะไม่กระทบกับผู้ที่สัญจรปกติ แต่จะใช้กับผู้ที่ก่อความเดือดร้อนเท่านั้น