ณัฐวุฒิเร่งขอประกันแดงทั่วประเทศ
ณัฐวุฒิเผยเสื้อแเดงตกค้างในเรือนจำทั่วประเทศ101คนจะเร่งประกันให้ได้มากที่สุดสัปดาห์นี้ จวกมาร์คอย่ายกเหตุถูกเสื้อแดงต้านมาระรานคนอื่น
ณัฐวุฒิเผยเสื้อแเดงตกค้างในเรือนจำทั่วประเทศ101คนจะเร่งประกันให้ได้มากที่สุดสัปดาห์นี้ จวกมาร์คอย่ายกเหตุถูกเสื้อแดงต้านมาระรานคนอื่น
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มนปช. แถลงถึงจำนวนคนเสื้อแดงที่ยังถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำทั่วประเทศว่า ขณะนี้ยังมีตกค้างอยู่ประมาณ 101 คน โดยในวันนี้จะมีการยื่นประกันตัวที่จ.อุบลราชธานี 20 คน ขณะที่จ.อุดรธานีนั้น ในสัปดาห์ที่แล้วได้ยื่นประกันตัวแล้วทั้ง 22 คนแต่ศาลไม่อนุญาต ดังนั้นจึงได้หารือกับทีมทนายความว่า จะยื่นประกันตัวในชั้นต้นใหม่อีกครั้งภายในสัปดาห์นี้
ส่วนที่จ.มหาสารคามนั้น 9 คนเป็นผู้ต้องขังที่ศาลตัดสินแล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างการต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ ดังนั้นเราจะเร่งดำเนินการยื่นประกันทั้ง 9 คนเพื่อให้ได้รับอิสรภาพเพื่อต่อสู้ในชั้นอุทธรณ์ต่อไป ซึ่งเหมือนกับกรณีของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่บุกยึดสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีแล้วได้รับการประกันตัวออกมาสู้คดี ดังนั้นภายในสัปดาห์นี้จะมียื่นประกันตัวผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงที่ถูกคุมขังอยู่ให้ได้มากที่สุด ทั้งในกทม.และต่างจังหวัด
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีการเผาห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์นั้น ความจริงกำลังจะถูกเปิดเผยในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ดังนั้นความจริงจะปรากฎทั้งต่อความเข้าใจของคนในสังคมและต่อกระบวนการยุติธรรมหลังจากนี้ไป ซึ่งจะทำให้เราสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในสายตาประชาชนทั้งในและนอกประเทศได้
จวกมาร์คอย่ายกเหตุถูกเสื้อแดงต้านมาระรานคนอื่น
ส่วนกรณีที่มีประชาชนทั้งที่ใส่เสื้อสีแดงและไม่ใส่เสื้อสีแดงต่อต้านและขับไล่รัฐบาลโดยเฉพาะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีนั้น ความจริงแล้วรัฐบาลไม่น่าจะถือเอาเหตุนี้เป็นข้ออ้างในการกล่าวหาระรานใครอีก ทั้งพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและคนเสื้อแดง เพราะรัฐบาลน่าจะยอมรับความจริงง่ายๆ และตรงไปตรงมาว่า ขณะนี้นายอภิสิทธิ์กำลังตกอยู่ในวงล้อมของปัญหาที่ตัวเองก่อเอาไว้ทั้งสิ้น ที่ประชาชนแสดงออกในวันนี้นั้น อธิบายได้ว่าประชาชนไม่อาจทนดูนายอภิสิทธิ์บริหารรัฐบาลชุดนี้แล้วสร้างปัญหาเพิ่มขึ้นตลอดเวลาได้อีกต่อไปแล้ว
เหน็บส่องกระจกแล้วจะเห็นต้นตอปัญหา
“น่าจะเข้าใจได้แล้วว่า ใครที่เป็นนายกฯ แล้วบริหารประเทศจนคนต้องเข้าคิวซื้อน้ำมันปาล์มนั้น ประชาชนเขารู้มีความรู้สึกอย่างไร ใครที่บริหารประเทศแล้วมีการทุจริตมากมายจนพูดกันว่า 100 ชัก 30 นั้น ประชาชนเขาจะรู้สึกอย่างไร ใครที่บริหารรัฐบาลแล้วช่วยเหลือแรงงานจากประเทศลิเบีย แต่งบประมาณที่นำไปช่วยนั้นกลับหมกเม็ดสอดไส้กัน ประชาชนเขาจะรู้สึกอย่างไร การชั่งไข่เป็นกิโลขายนั้น ประชาชนจะรู้สึกอย่างไร และการเคลื่อนกองทัพจนทำให้ประชาชนชาดเจ็บและล้มตายจำนวนมากนั้น ประชาชนเขาจะรู้สึกอย่างไร ทั้งหมดเป็นดงปัญหาที่นายอภิสิทธิ์ทำไว้และกำลังตกอยู่ในวงล้อมนั้น การออกมาแสดงความไม่ยอมรับนั้น รัฐบาลไม่ต้องไปโทษใคร ส่องกระจกแล้วจะเห็นต้นตอของปัญหา ถ้ารัฐบาลอธิบายว่าเป็นภาพการก่อความวุ่นวายและจะไม่ยอมยุบสภานั้น ยืนยันว่านี่ไม่ใช่ข้ออ้าง การขับไล่และต่อต้านโดยสงบนั้นเกิดขึ้นทั่วโลก ไม่ใช่เรื่องใหม่ ถือเป็นความงามในระบอบประชาธิปไตยด้วยซ้ำ ดังนั้นการอ้างของรัฐบาลจึงฟังไม่ขึ้น”นายณัฐวุฒิกล่าว
เล็งสรุปบทเรียนการต่อสู้ก่อนกำหนดแนวทางเคลื่อนไหว
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ถ้ารัฐบาลจะอ้างเหตุผลดังกล่าวและไม่ยอมยุบสภา คนเสื้อแดงก็ไม่มีปัญหา ถ้าเห็นว่าสุภาพสตรี 2-3 คนยกป้ายข้อความว่า “ดีแต่พูด” แล้วบ้านเมืองจะวุ่นวายและไม่ยอมยุบสภาก็ไม่เป็นไร จะอยู่จนครบวาระก็ไม่มีปัญหา เพราะตนก็อยากเห็นเหมือนกันว่า ใครที่บริหารประเทศจนเน่าคาทำเนียบรัฐบาลนั้นจะมีสภาพแบบไหน ผู้ที่สนับสนุนและอยู่เบื้องหลังนั้นต้องคิดว่าการจะอยู่ต่อไปนั้นจะต้องมีสภาพอย่างไร คนเสื้อแดงพร้อมทุกสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กำลังจะเสนอให้มีการหารือเพื่อสรุปบทเรียนในการต่อสู้ที่ผ่านมาร่วมกัน และกำหนดแนวทางในการเคลื่อนไหวต่อไป โดยจะกำหนดกรอบภารกิจทุกรูปแบบ ทั้งระยะสั้นและระยะยาว รวมทั้งเตรียมมาตรการรับมือการรัฐประหารด้วย ที่คนเสื้อแดงไม่เคยตายใจว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ นอกจากนี้ การเลือกตั้งซ่อมส.ส.สุรินทร์และนครราชสีมาที่ผ่านมานั้น พรรคเพื่อไทยต้องต่อสู้กับพรรคภูมิใจไทยที่ไม่ได้รับการยอมรับจากคนเสื้อแดง แต่ก็ไม่เห็นมีปัญหาและไม่มีความวุ่นวายใดๆ ดังนั้นนี่จึงเป็นยิ่งกว่าคำอธิบายว่า เมื่อเวลาที่ต้องต่อสู้ในกติกามาถึงทุกอย่างจะอยู่ในความสงบเรียบร้อยได้
ชี้พรรคลำดับ 2-4 จับมือตั้งรัฐบาลปัญหาจะไม่จบ
นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า ส่วนการเตรียมพร้อมลงสนามเลือกตั้งนั้น คนเสื้อแดงจะแปรพลังเป็นคะแนนสนับสนุนพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย แล้วใช้คะแนนนั้นให้เป็นพลังในการกำหนดทิศทางของบ้านเมือง ดังนั้นอยากให้พรรคประชาธิปัตย์แสดงความสง่างามทางการเมือง แสดงความเป็นสุภาพบุรุษ โดยประกาศให้ชัดว่า ใครที่ชนะการเลือกตั้งจะเคารพมติของประชาชนและตั้งรัฐบาล เพราะพรรคประชาธิปัตย์พูดตลอดเวลาว่า พรรคลำดับที่ 2 สามารถตั้งรัฐบาลได้ ซึ่งไม่ผิดรัฐธรรมนูญแต่ผิดเจตนารมย์ของประชาชน ทั้งนี้ ทางที่จะออกจากวิกฤตได้คือ ทุกฝ่ายต้องเคารพและยอมรับมติของประชาชน การพยายามอธิบายว่าพรรคลำดับที่ 2-4 ร่วมกันตั้งรัฐบาลได้นั้น มันฝืนเจตนารมย์ของประชาชน ปัญหาจะไม่จบ เราจะเดินถลำเข้าไปในบ่วงความขัดแย้งมากขึ้นจนไม่อาจจะไถ่ถอนคืนได้ อยากให้ผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการของรัฐบาลตระหนักไว้ด้วย
ย้ำเสื้อแดงพร้อมสนับสนุนข้อมูลสลายการชุมนุมให้“เพื่อไทย”
“ถ้าไม่ฟังประชาชนเที่ยวนี้ก็จะไม่มีใครฟังใครอีก บ้านเมืองนี้จะออกจากวิกฤติได้เมื่อทุกฝ่ายเข้าสู่กติกา และภายใต้กติกาที่เป็นธรรมเท่านั้น คนเสื้อแดงจะติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน ซึ่งถ้ามีประด็นใดที่มีข้อมูลหลักฐานเพิ่มเติม หรือมีรายละเอียดเพิ่มเติมแล้วเป็นประโยชน์ในการอภิปรายก็จะประสานกับตัวแทนพรรคเพื่อไทยเพื่อสนับสนุนข้อมูลต่อไป แต่เท่าที่ทราบนั้น เฉพาะข้อมูลที่มีอยู่ในขณะนี้ก็บันทึกประวัติศาสตร์ความจริงของประเทศไทยได้อยู่แล้ว”นายณัฐวุฒิกล่าว