posttoday

สว.จี้รัฐเปิดอภิปรายแก้ปาล์ม

07 มีนาคม 2554

รสนา เซ็งรัฐแก้ปาล์มน้ำมันผิดทางตั้งข้อสังเกตราคาตลาดมาเลเซีย-ไทยมีช่องว่างชี้เอื้อประโยชน์ในการสะสมทุนเลือกตั้ง เรืองไกรจี้เปิดอภิปรายทั่วไประดมสมองแก้ปัญหา

รสนา เซ็งรัฐแก้ปาล์มน้ำมันผิดทางตั้งข้อสังเกตราคาตลาดมาเลเซีย-ไทยมีช่องว่างชี้เอื้อประโยชน์ในการสะสมทุนเลือกตั้ง เรืองไกรจี้เปิดอภิปรายทั่วไประดมสมองแก้ปัญหา

การประชุมวุฒิสภา โดยมีนายประสพสุข  บุญเดช ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่วาระการประชุมประธานได้เปิดโอกาสให้สมาชิกหารือ โดยน.ส.รสนา  โตสิตระกูล ส.ว.กรุงเทพฯ กล่าวว่ากรณีการแก้ไขปัญหาน้ำมันปาล์มของรัฐบาลยังคงเป็นปัญหาที่แก้ไขไม่ถูกจุด

การแก้ไขของรัฐบาลถูกมองว่าหากไม่ได้มาจากความไร้ประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหา ก็มาจากการแสวงการประโยชน์หรือการเก็งกำไรทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกันถ้วนหน้า แม้แต่ตนก็ยังไม่สามารถซื้อหาน้ำมันได้ เพราะเมื่อรัฐบาลเปิดให้ซื้อน้ำมันได้อย่างไม่จำกัดกลับทำให้เกิดการซื้อเพื่อการกักตุนเกิดขึ้น

เมื่อพิจารณาจากตัวเลขปริมาณน้ำมันย้อนหลังพบว่าปริมาณน้ำมันเดือนพ.ย. 2553 มีปริมาณน้ำมันที่ประเทศมาเลยเซียที่ 32.92 บาท ขณะที่ประเทศไทยราคา 42.09 บาท จะเห็นว่ามีส่วนต่างเกือบ 10 บาท ตัวเลขตลาดมาเลเซียเดือนธันวาคมอยู่ที่ 36.37 บาท ประเทศไทยราคา 48 บาท  ราคาห่วงกันถึง 11.73 บาท ตัวเลขเดือนมกราคมราคามาเลเซียอยู่ที่ 38.52 บาท ประเทศไทย 57.45 บาท มีช่องว่างของราคาถึง 18 บาทกว่า

“อยากทราบว่าเหตุใดรัฐบาลจึงไม่ซื้อน้ำมันปาล์มบรรจุขวดมาขายตั้งแต่แรก หากมีการนำเข้ามาสัก 10 ล้านขวดการกักตุนน่าจะหมดไป ทั้งนี้เพราะราคาที่รัฐบาลขายอยู่ 47 บาทยังแพงกว่าที่นำเข้ามาจากประเทศมาเลเซีย  ตนเชื่อว่าการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลเป็นการแก้ไขที่เอื้อประโยชน์กับกลุ่มนักธุรกิจเพื่อส่งผลกลับมาให้นักการเมืองได้ประโยชน์ในการสะสมทุนเพื่อการเลือกตั้งการแก้ไขปัญหาแบบนี้นอกจากไร้ประสิทธิภาพยังชัดเจนว่าเป็นการแก้ไขปัญหาไม่ถูกจุดและทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน รัฐบาลควรแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้ดีกว่านี้เพื่อไม่ให้มีข้อครหาว่ารัฐบาลแก้ไขปัญหาเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของตัวเอง” น.ส.รสนา กล่าว

ขณะที่ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ตนอยากถามความคืบหน้ากรณีส.ว.จำนวน 1 ใน 3 ได้เสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปตั้งแต่ปลายสมัยประชุมที่แล้ว ไม่ทราบว่าขณะนี้ญัตติดังกล่าวอยู่ที่ใด หากญัตติยังคงอยู่จะได้นำเรื่องอาวุธหาย ,สินค้าราคาแพง หรือข้อมูลที่สมาชิกต้องการสอบถามทั้งเรื่องภาษีสรรพสามิตรหาย6.8 หมื่นล้านบาท ฯลฯ เรื่องเหล่านี้จะได้นำมาคุยกันดีกว่าให้เพื่อสมาชิกหารือคนละ 2-3 นาทีแล้วประธานวุฒิสภาส่งหนังสือกลับมาแจ้งซึ่งไม่มีประโยชน์อะไร ตนอยากให้มีการเปิดอภิปรายเพื่อให้รัฐมนตรีที่เก่งๆ ได้มาตอบคำถาม การอ้างว่าไม่มีประเพณีปฏิบัติทำให้เหมือนสภาสูงไม่มีความหมาย และตนหวังว่าการตอบคำถามนี้จะไม่ต้องตอบเป็นจดหมายมาที่ตนแต่ให้ตอบต่อสภาแห่งนี้จะดีกว่า