posttoday

ทบ.พร้อมให้ผ่าเครื่อง จีที 200

28 มกราคม 2553

ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมให้ผ่าจีที 200 เพื่อความกระจ่างต่อสาธารณชน ยันเจ้าหน้าที่ใช้ได้ผล แต่เมื่อมีข้อกังขาจะชะลอการจัดซื้อไว้ก่อน

ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมให้ผ่าจีที 200 เพื่อความกระจ่างต่อสาธารณชน ยันเจ้าหน้าที่ใช้ได้ผล แต่เมื่อมีข้อกังขาจะชะลอการจัดซื้อไว้ก่อน

ทบ.พร้อมให้ผ่าเครื่อง จีที 200

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงปัญหาเครื่องตรวจวัตถุระเบิด หรือ จีที 200 ว่า เรื่องนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ ๆ คือผู้ที่ใช้ และผู้ที่ต้องการพิสูจน์ทางหลักวิทยาศาสร์ เท่าที่ตนประเมินได้ตอนนี้ซึ่งตนได้มีโอกาสคุยกับ พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 ยืนยันว่า จีที 200 ใช้ได้ผล หากไม่มีก็จะลำบากในการที่จะทำงาน และเมื่อเช้าได้เรียนกับประธานที่ปรึกษากองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.วิโรจน์ บัวจรูญ เพราะท่านเคยเป็นอดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ถึงตอนที่ทำงานอยู่ว่าเป็นอย่างไร โดยท่านได้อธิบายให้ฟังว่ามันทำงานได้ผล และมีความจำเป็น

"สรุปว่าผู้ใช้ยืนยันว่าใช้ได้ผล แต่จะเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ยังไม่มีใครออกมาวิเคราะห์ แต่มีสถิติว่าไปตรวจแล้วสามารถตรวจค้นเจอวัตถุระเบิด และอีกส่วนหนึ่งคือผู้ที่ทดสอบแบ่งออกเป็น 2 ข้อ คือส่วนหนึ่งได้ทำแล้ว และเมื่อวานที่ไปทดสอบที่คลังสรรพาวุธ คลังแสง 5 จ.ราชบุรี แต่ก็ยังไม่ทราบผลว่าเป็นอย่างไร แต่เจ้าหน้าที่ฝ่ายเสนาธิการบอกว่าใช้เครื่องดังกล่าวก็ตรวจเจอ แต่จำนวนเท่าไหร่ไม่ทราบ " พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวอีกว่า สำหรับ ข้อ 2. คือบุคคลที่ต้องการไปพิสูจน์ในเชิงวิทยาหรือในแล็ป ถ้าจะทำให้สมบูรณ์จะต้องทำทั้งสองทางว่าทางวิทยาศาสตร์ก็พิสูจน์ไปว่าใช้ได้หรือไม่อย่างไร ถ้าใช้ได้แล้วได้กี่เปอร์เซ็นต์ก็ดีเพราะจะได้ตัดสินใจ ขณะนี้ที่กองทัพทำอยู่ ผู้ใช้มีความต้องการไม่ใช่เพียงกองทัพบก ปปส.ตำรวจ ก็ใช้ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกส่วนเขาต้องการหมด ซึ่งตนก็ต้องการทราบเหมือนกันว่าใช้ดีหรือไม่ดี ตนก็มักจะไปถามผู้ใต้บังคับบัญชาเสมอ ซึ่งเขาก็ยืนยันว่าใช้ได้ ทั้งนี้ตนคิดว่าจะต้องพิสูจน์ให้ได้ไม่ว่าจะเป็นในทางปฏิบัติหรือทางวิทยาศาตร์ และมาดูกันว่าจะได้ประโยชน์กับการแก้ไขปัญหาหรือไม่   ถ้าใช้ประโยชน์ได้ก็ได้ ถ้าใช้ประโยชน์ไม่ได้ก็จะต้องไม่ใช้

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้ถ้ามีเรื่องเข้ามาคงต้องชะลอการจัดซื้อไว้ก่อน เพื่อให้มีความแน่ชัดกว่านี้ แต่ขั้นตอนการจัดซื้อก็มีเหมือนกันไม่ใช่คำสั่งของตนจะไปลบทุกอย่างได้จะต้องมีวิธีการ ถ้ามีงบประมาณตั้งไว้แล้ว และประกวดราคาไว้แล้ว ดังนั้นจะต้องไปดูกฎหมายอีก เดี๋ยวจะโดนฟ้องได้ เพราะตนไม่รู้ในรายละเอียด ทั้งนี้หากชะลอได้จะชะลอก่อน อย่างไรก็ตาม การชะลอเพื่อต้องการให้เกิดความแจ่มชัดก่อนจะได้ไม่มีปัญหา

อย่างไรก็ตาม หากมีการร้องขอให้ผ่าเครื่องมือดังกล่าว ในภาพรวมก็คงต้องดำเนินการ และเจ้าหน้าที่ที่ยืนยันก็จะต้องโอเค ตนไม่ได้เป็นคนมายืนยันว่ามันใช้ได้ แต่เจ้าหน้าที่ที่อยู่ภาคเหนือ ภาคใต้ ทั้งหมดเขายืนยันว่าใช้ได้ ไม่ใช่ พล.อ.อนุพงษ์ หรือ กองทัพบก เจ้าหน้าที่ทั้งหมดเขายืนยันว่าใช้ได้ โดยเฉพาะแม่ทัพภาคที่ 4 ทั้งในอดีตและปัจจุบันต่างยืนยันว่าใช้ได้  ทั้งนี้หากมีการขอมาตนคิดว่าเหมาะสมที่จะต้องไปทำให้เห็น ถ้าไม่ได้ หรือได้จำนวนกี่ครั้งออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์ก็ตัดสินใจได้ ไม่ใช่มาดันทุรังว่าใช้ได้หรือไม่ได้

"ผมไม่มีอะไรอยู่แล้วยังไงก็ได้ เพราะซื้อมาแล้วต้องใช้ประโยชน์ให้ได้ ถ้าใช้ประโยชน์ได้ก็จบ ผมเข้าใจว่า ถ้าใช้ประโยชน์ได้นักวิชาการคงต้องรับ แต่ขณะเดียวกันใช้ประโยชน์ไม่ได้ฝ่ายผู้ใช้ก็ต้องยอมรับว่าเปอร์เซ็นต์น้อยใช้ไม่ได้ก็จะต้องมาคุยกัน" พล.อ.อนุพงษ์กล่าว

นิติวิทยาศาสตร์ ระบุ จีที 200 ได้ผล แต่ไม่ได้บอกว่าร้อยเปอร์เซ็นต์

พ.ต.ท.สมชาย เฉลิมสุขสันต์ หัวหน้ากลุ่มงานตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์  เปิดเผยว่า สถาบันสั่งซื้อเครื่องจีที 200 ทั้งหมด 6 เครื่องโดยเป็นการทยอยซื้อ  ปีละ 1-2 เครื่องตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปี 2552  ในราคาเครื่องละประมาณ 1.1 ล้านบาท  โดยเครื่องจีที 200 นำมาใช้งานด้านการรวบรวมพยานหลักฐานซึ่งกระบวนการดังกล่าวจะใช้ทั้งวิทยาศาสตร์และวิธีการไม่เป็นวิทยาศาสตร์  ซึ่งเครื่องจะกำหนดให้พื้นที่กว้างแคบลง เมื่อเก็บวัตถุพยานได้จากที่เกิดเหตุจึงจะนำเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ล้วน ๆ ก่อนขยายผลในทางคดี

เครื่องจีที 200 ทั้งหมด 6 เครื่องได้ส่งไปใช้ปฏิบัติภารกิจในภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่อันตราย โดยใช้เพื่อป้องกันบุคคลากร หากมีคดีสำคัญในพื้นที่อื่นเจ้าหน้าที่จึงจะนำเครื่องออกจากพื้นที่ไปตรวจพิสูจน์ ที่ผ่านมา เครื่องจีที 200สามารถใช้ค้นหาพื้นที่ต้องสงสัยที่ใช้ประกอบวัตถุระเบิด โดยสามารถค้นหาสารระเบิดตกค้าง และค้นหาสารเสพติดได้  แต่สถาบันก็ไม่เคยยืนยันว่าจะได้ผลร้อยเปอร์เซ็นเพราะเป็นเพียงองค์ประกอบหนึ่งเท่านั้นในการรวบรวมพยานหลักฐาน  ลักษณะการทำงานก็ต่างจาก เครื่องดีโอดีของทหารที่ใช้ในภาระกิจเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด

"เครื่องจีที 200 สถาบันได้ใช้ตรวจคดีสำคัญหลายคดีอาทิ ซานติก้าผับ  กรณีการยิงแก๊สน้ำตาใส่พันธมิตรจนกระทั่งมีผู้เสียชีวิต  ชิ้นส่วนกระดูกของทนายสมชายที่ราชบุรี เป็นต้น" พ.ต.ท.สมชาย กล่าว

อ.จุฬายืนยันจีที 200 ลวงโลก งงราคาสูง 1.4 ล้านแต่ก็ยังใช้แพร่หลาย

นายเจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชี้แจงถึงประสิทธิภาพเครื่องตรวจจับระเบิด จีที 200 ในการประชุมคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ ที่มี นายเจ๊ะอามิง โต๊ะตาหยง ส.ส. นราธิวาส พรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธาน ว่า ข่าวที่ระบุว่า การใช้เครื่องจีที 200 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีความผิดพลาด 2 ครั้ง และทำให้เกิดเหตุระเบิดนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะมีมากกว่านั้น แต่ไม่เป็นข่าว สาเหตุความผิดพลาดมาจากการทำงานของเครื่อง ซึ่งจากการศึกษามาหลายครั้ง สามารถชี้ได้เลยว่าจีที 200 ลวงโลก เป็นแค่ไม้ล้างป่าช้า ไม่เป็นวิทยาศาสตร์ ไม่เข้าใจว่ามีการใช้แพร่หลายในหลายหน่วยงานได้อย่างไร และราคาสูงถึง 1.4 ล้านบาทต่อชุด

“หลายกรณีมีลักษณะฝ่ายตรงข้ามวางระเบิดลูกแรกไว้ ล่อให้เจ้าหน้าที่มา แล้วกดระเบิดซ้ำ  ทำให้เกิดปัญหาการชี้เป้าผิด ซึ่งมี 2 แบบ คือ 1.ชี้ว่าไม่มี แต่ความจริงมี กรณีนี้สร้างความเสียหายมาก ทั้งเรื่องชีวิตและทรัพย์สิน และ 2.ชี้เป้าว่ามี  แต่ความจริงไม่มี เช่น เรื่องยาเสพติด ชี้ว่ามี แต่ที่จริงไม่มี ทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นศรัทธาต่อรัฐ บางคนถูกดำเนินคดีทั้งที่ไม่มีความผิด  จีที 200 อ้างว่ามีประสิทธิภาพตรวจหาได้หลายชนิด ตั้งแต่สารระเบิด ยาเสพติด สารเคมี ยูเรเนี่ยม ทอง งาช้าง ธนบัตร ยาสูบ หรือแม้แต่สารชีวภาพ เช่น ซากศพ ฟังแล้วประหลาดมาก และนักวิทยาศาสตร์ในโลกนี้ ยังตอบไม่ได้ว่า ใช้หลักการใด จึงสามารถตรวจหาสารที่แตกต่างกันได้ขนาดนี้” นายเจษฎา กล่าว

นายเจษฎา กล่าวว่า นอกจากนี้ ไม่มีการระบุเป็นค่าตัวเลข มีแต่หาพื้นที่ตามจุดตัด ซึ่งถ้าชี้ทั้งหมู่บ้าน แล้วระดมกำลังไปหา สุดท้ายก็ต้องเจอ อีกทั้งอ้างว่าตรวจอาวุธได้ แต่ไม่เคยเห็นว่าเครื่องมือจะชี้มาที่อาวุธของทหารคนอื่นในทีม  เมื่อเกิดข้อผิดพลาดที่รายงานต่อผู้บังคับบัญชา ก็มักถูกผลักให้เป็นความผิดพลาดของบุคคล อาทิ พักผ่อนไม่เพียงพอ แต่ไม่เคยมีใครมองว่าเครื่องเป็นอย่างไร  ส่วนการสาธิตการใช้ที่ผ่านมา ก็เป็นเพียงการสาธิตการใช้  แต่ไม่ใช่การทดสอบ ซึ่งเป็นเรื่องที่มีการเตรียมการไว้ล่วงหน้า

"ที่โชว์ว่าสามารถค้นหาได้ระยะไกล เช่น ใต้น้ำลึก 800 เมตร ทั่วไป 700 เมตร ไต้ดิน 60 เมตร ในอากาศ 4 กิโลเมตร ยังไม่มีการพิสูจน์จากที่ใดในโลก  สำหรับประเทศพัฒนาแล้ว อย่างอังกฤษ และสหรัฐ เคยมีกรณีการทำหนังสือสอบถามไปยังรัฐบาลอังกฤษได้รับการยืนยันว่า 10 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีประจำการในรัฐบาลอังกฤษตามที่มีการแอบอ้าง ในอดีตเมื่อปี  1996 ในสหรัฐ มีบริษัทผลิตเครื่องหลักการเดียวกับจีที 200 สุดท้ายเอฟบีไอทำการตรวจสอบ โดยมีบันทึกว่าไม่มีประสิทธิภาพจริงตามที่อ้าง และยังระบุว่าการใช้เครื่องดังกล่าวจะทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับการตรวจสอบยาเสพติดได้ รัฐบาลสหรัฐ จึงยังไม่เคยนำมาประจำการ นอกจากการนำมาเพื่อตรวจสอบส่วนหนึ่ง ในปี 1999 กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ ยังเคยออกหนังสือเตือนว่า เครื่องมือใดมีประสิทธิภาพมากเกินจริง ให้คิดไว้ก่อนว่า เป็นเครื่องหลอกลวง”นายเจษฎาระบุ

ขณะที่กรรมาธิการฯ ได้ระบุร่วมกันว่า จะทำการตรวจสอบเรื่องนี้ต่อไปและให้กองทัพและนักวิชาการร่วมการตรวจสอบเพื่อความชัดเจน เพราะเรื่องดังกล่าวมีความสำคัญต่อชีวิตประชาชนโดยเฉพาะในพื้นที่3 จังหวัดชายแดนภาคใต้