ปาล์ม ส่อ...งาบ

ปัญหาราคาน้ำมันปาล์มแพงทุบประวัติศาสตร์เป็นสิ่งที่น่าติดตามอย่างยิ่ง ทุกๆ ฝ่ายในสังคมควรต้องเข้ามาร่วมตรวจสอบ

ประเด็นที่น่าสนใจคือน้ำมันปาล์มแพง เกิดจากภาวะธรรมชาติ หรือ Man - made คนทำ กันแน่

หลายๆ พฤติกรรมส่อแสดงว่า มีการปั่นสถานการณ์ให้ปาล์มแพง

เริ่มจากสาเหตุที่น้ำมันปาล์มแพง นอกเหนือจากปัญหาผลผลิตลดต่ำลงแล้ว ส่วนสำคัญมาจากนโยบายผิดเพี้ยนในการใช้พลังงานทดแทน นั่นคือการตั้งราคาไบโอดีเซล

ไบโอดีเซล ผลิตจากปาล์มน้ำมันดิบ หรืออาจเทียบเคียงง่ายๆ ว่า ไบโอดีเซล เป็นคู่แข่งของน้ำมันปาล์มบรรจุขวดเพื่อบริโภคก็ได้

ปัจจุบัน รัฐบาลคุมเฉพาะราคาน้ำมันปาล์มขวด ขายไม่เกินลิตรละ 47 บาท แต่กลับตั้งราคาไบโอดีเซลสุดกู่ ช่วงต้น ก.พ. ให้ถึงลิตรละ 71.36 บาท ก่อนปรับลงมาที่ 56.35 บาท

กลุ่มผู้ผลิตไบโอดีเซล จึงแย่งซื้อน้ำมันปาล์มดิบในประเทศ ทำให้ราคาน้ำมันปาล์มดิบถูกปั่นแพงสุดกู่

ขณะเดียวกัน ไบโอดีเซลที่ผลิตได้ ใครซื้อไปผสมเป็นน้ำมันดีเซลรัฐบาลให้เงินอุดหนุน ชดเชยส่วนต่างให้อีก

โรงงานผลิตไบโอดีเซล นอนตีพุง ซื้อวัตถุดิบแพงเท่าไหร่ ก็ขายได้ เพราะมีเจ้ามือใหญ่อย่างรัฐบาลรับประกันอุดหนุนราคา

แต่คนตายคือชาวบ้าน เพราะน้ำมันไบโอดีเซล ดึงราคาน้ำมันปาล์มดิบในประเทศจนแพงลิ่ว กระทบถึงราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวด ที่ไม่มีทางจะขายตามราคาควบคุม

ตลาดมืดจึงเกิดขึ้นในกลุ่มน้ำมันปาล์มบรรจุขวดเพื่อบริโภค

และขณะที่ราคาน้ำมันปาล์มในประเทศแพงลิบลิ่ว รัฐบาลกลับไม่ยอมนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบ หรือนำเข้ามาก็ไม่เพียงพอ

กลุ่มผู้ที่ได้ประโยชน์อย่างจังอีก คือกิจการสวนปาล์ม โรงงานหีบน้ำมันปาล์มดิบ โรงงานกลั่นน้ำมันปาล์มขวดที่กักตุน และขบวนการขนน้ำมันปาล์มเถื่อนในภาคใต้

กระบวนการทั้งหมด ทำให้มองได้ว่า น้ำมันปาล์มมีการสร้างสถานการณ์บิดเบือนราคาและกลไกตลาด ทำให้เกิดความมั่งคั่งอย่างมหาศาล จากความเดือดร้อนของประชาชน

การแก้ปัญหาจึงต้องกำหนดเพดานขั้นสูงของน้ำมันปาล์มดิบ หากราคาเกินเพดานที่กำหนดไว้ ก็ให้นำเข้าปาล์มได้โดยอัตโนมัติทันที ไม่ต้องรอเข้าคณะกรรมการหน้าดำ หรือหน้าไหนเป็นผู้อนุมัติอีกต่อไป

ไม่เช่นนั้น อย่าพูดเลยว่าทุกอย่างทำถูกต้อง ไม่มีปัญหา

มันส่องาบ งุบ ทุจริต หากินบนหลังคนอย่างชัดแจ้ง