พรรคกล้าเขย่าซ้ำ ศก.ครึ่งปีหลังอ่วมแน่ หากรัฐไม่แก้น้ำมันแพง

เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 65 นายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรคกล้า ประธานทีมเศรษฐกิจ กล่าวว่า วิกฤตเศรษฐกิจ รอบนี้น่าจะเลวร้ายสุดในรอบศตวรรษ เรามีทั้งภัยโรคระบาด ภัยสงคราม และภัยการเมืองความขัดแย้งในประเทศ ในช่วงครึ่งปีหลังนี้น่ากลัวมาก ผู้ประกอบการต้องประคองธุรกิจ และตั้งการ์ดสูงๆเข้าไว้ ทั้งนี้ พรรคกล้าในฐานะพรรคการเมือง ที่มุ่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องของประชาชน ได้พบสาเหตุหลักของ สินค้าราคาแพง และเงินเฟ้อพุ่งกระฉูด เพราะสาเหตุใหญ่มาจากราคาน้ำมันแพง เพราะน้ำมันเป็นต้นทุนของการผลิตสินค้า และเป็นต้นทุนค่าขนส่งของทุกสินค้า ถ้าราคาน้ำมันแพง นั่นคือสินค้าทุกชนิดแพงทั้งแผ่นดิน ดังนั้น ทุกรัฐบาลจึงต้องควบคุมราคาน้ำมัน ให้ต้นทุนต่ำและมีราคาที่เป็นธรรม

รองหัวหน้าพรรคกล้า กล่าวว่า แต่จากการตรวจสอบของพรรคกล้า เราพบความผิดปกติของต้นทุนน้ำมันที่จำหน่ายในประเทศ เพราะค่าการกลั่นน้ำมัน สูงขึ้นสิบเท่าในปีเดียวอย่างไม่มีเหตุผลจากค่ากลั่น 0.87 บาทเมื่อปีที่แล้ว ขึ้นมาเป็น 8.56 บาทในปีนี้ มันขึ้นสูงมากอย่างไม่มีเหตุผลรองรับ ส่งผลให้ราคาน้ำมัน แพงขึ้นกว่าที่ควรจะเป็นอีกลิตรละเกือบ 8 บาททันที ถามว่าใครคือคนที่รับภาระ ราคาน้ำมันที่แพงขึ้น คำตอบคือ ผู้ผลิตสินค้า และประชาชนผู้บริโภคทั่วประเทศ ใครได้ประโยชน์ และได้กำไรจากค่ากลั่นที่สูงขึ้น 10 เท่านี้ คำตอบคือโรงกลั่นน้ำมัน ทุกโรงที่อยู่ในประเทศไทย เรื่องนี้ จนถึงตอนนี้ รมว.พลังงานที่เป็นอดีตผู้บริหาร ปตท.ที่เป็นโรงกลั่นที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดในประเทศไทย ยังไม่มีคำตอบ นายกรัฐมนตรี ที่แต่งตั้งรมว.พลังงานท่านนี้มา ก็ยังไม่มีคำตอบเช่นเดียวกัน ขณะที่ประชาชนคนไทยทุกคน โดนปล้นจากโครงสร้างต้นทุนการกลั่น ที่สูงขึ้น10เท่าไปเรียบร้อยแล้ว

“เศรษฐกิจไทย บอบช้ำมากจากวิกฤตโควิด และวิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครน แต่โดนราคาน้ำมัน ที่แพงขึ้นเพราะค่าการกลั่น ที่สูงเพื่อกำไรมหาศาลของโรงกลั่น แต่กำไรนั้น มาจากคราบเลือดคราบน้ำตาประชาชนทั้งประเทศ ท่านนายกรัฐมนตรีและท่านรัฐมนตรีพลังงานยังนอนหลับดีอยู่หรือครับ” รองหัวหน้าพรรคกล้า กล่าวย้ำ