posttoday

"สว.สมชาย" เสนอ นายกฯ ออกพรก.คุมการใช้ "กัญชา" ช่วงสุญญากาศ

14 มิถุนายน 2565

สมชาย แสวงการ ถาม นายกฯ 7 ข้อ ปัญหาสูญญากาศจากการปลดล็อคกัญชา พร้อมเสนอ 5 แนวทางแก้ไข แนะ ออก พ.ร.ก.จำกัด การใช้ "กัญชา" ระหว่างรอกฎหมาย

เมื่อวันที่ 14 มิย. 65 นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า วันนี้ได้หารือประธานวุฒิสภาไปยังนายกรัฐมนตรีว่ากัญชาเสรี เวลานี้กำลังทำลายสิ่งที่ท่านนายกเคยสร้างมา หรือไม่ เพราะเกิดปัญหาสูญญากาศจากการปลดล็อคกัญชา 7 ข้อ และมีข้อเสนอแก้ไขที่เป็นรูปธรรม 5 ข้อไปยังนายกรัฐมนตรี ดังนี้

1) ดอกช่อกัญชา ซึ่งมีสารthcอยู่มากโดยธรรมชาติ สูง2-10%หรือ5-20% ไม่มีหรอกครับที่ค่าthc 0.2% เพราะ เมื่อสกัดเข้มข้นแล้วยังต้องมาทำเจือจางให้เหลือ0.2%

2)ขณะนี้ทั่วประเทศไม่มีlabตรวจthc เพราะเครื่องมืออุปกรณ์มูลค่า3-5ล้านบาท ค่าตรวจครั้งละ5000บาท ชาวบ้านที่ไหนจะมีเงินไปตรวจครับ

3)มีขบวนการค้ากัญชาเตรียมการไว้แล้ว ในประเทศเพื่อนบ้าน ปลูกและขนเป็นหมื่นเป็นแสนไร่ ข้ามชายแดนรอบประเทศ ถ้าไม่เชื่อนายกให้ ปปส. หน่วยข่าวกรองทางทหารศรภ. สมช.สำนักข่าวกรอง ตำรวจสันติบาล แต่ละหน่วยแยกรายงานละเอียด ตรงต่อนายกรัฐมนตรีดูครับ ว่า ใครขนกัญชาแบบต้น แบบอัดแท่ง หรือน้ำมันกัญชากันแบบโจ๋งครึ่มทั้งเปิดเผยและปกปิดบ้าง

4)มาตรการที่เพิ่งออกมาระหว่างสูญญากาศหลุมดำ อ่อน มากๆครับ ไม่สามารถควบคุมการเสพกัญชาเสรีได้เลย เช่นมาตรการค่าปรับจากควันในที่สาธารณะ 25,000บาท ก็สูบในบ้านในร้านที่อนุญาตก็จับไม่ได้ ยังไม่รวมการขนย้ายการขายเสรี ที่ทำหันแบยไม่สนใจกฎหมาย หรือมาตรการห้ามขับขี่รถสาธารณะ ไม่ได้ห้ามขับขี่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ส่วนบุคคล หริอไม่มีกฎหมายห้ามคนเสพกัญชาแล้วออกไปสร้างปัญหาในสังคม

5)ประเทศไทยละเมิด อนุสัญญาระหว่างประเทศ ” ( SINGLE CONVENTION ON NARCOTIC DRUGS , 1961 ) และสำหรับสารสำคัญ TETRAHYDRO - CANNABINOL ( THC ) ยังเป็นวัตถุออกฤทธิ์ตาม “ อนุสัญญาระหว่างประเทศ ” ( CONVENTION ON PSYCHOTROPIC SUBSTANCES ) จึงจำเป็นอย่างยิ่ง !!!!!!!!!! ที่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุม ไม่ให้มีการใช้ไปในทางที่ผิดอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ตามที่ “ อนุสัญญาระหว่างประเทศ ” ได้กำหนดไว้

6) บ้านเรามีปัญหาการบังคับใช้กฎหมายอยู่แล้ว ยิ่งไม่มีกฎหมายยิ่งไปกันใหญ่ เราห้ามเรื่องสารสกัดจากใบและช่อดอก แต่เราอนุญาตให้ปลูกต้นได้ หน่วยงานต้องหากลไกว่าการปลูกต้นย่อมได้ใบและช่อดอก จะควบคุมอย่างไรให้นำใบมารับประทานได้ แต่ไม่ให้ทำสารสกัดออกมา

@ถ้าควบคุมให้ปลูกต้นในจำนวนที่อนุญาตได้จริง จำนวนใบกับช่อดอกน่าจะไม่สามารถสกัดได้ตามปริมาณที่กำหนด

7)นายกต้องรับฟังข้อกังวลของอายุรแพทย์ กุมารแพทย์ จิตแพทย์ และฟังสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยได้ออกประกาศ กัญชง กัญชา ไม่ว่าจะเป็น เมล็ดกัญชง กัญชา น้ำมันจากเมล็ดกัญชง กัญชา โปรตีนจากเมล็ดและผลิตภัณฑ์อาหารที่มีส่วนประกอบของเมล็ดกัญชง กัญชา ถือเป็นฮารอม (สิ่งต้องห้าม) ฐานเดียวกับการดื่มสุราด่วน

ย้ำ ว่า อย่าฟังแต่แพทย์การเมืองซึ่งวันนี้ต้องถามหาจรรยาบรรณ ว่า ยังมีอยู่มั้ย

…………………………………………………………………………………………………………

@ ส่วนแนวทางแก้ไขที่ทำได้เร็วที่สุดระหว่างสูญญากาศนี้ รัฐบาล หรือกระทรางสาธารณสุขหรือคณะกรรมการยาเสพติดหรือปปส หรือสตช. ต้องร่วมกันทบทวน จะออกระเบียบคำสั่งหรือกฎใดๆมากำกับดูแลมิให้เป็นการปลูก ขนย้าย เสพกัญชาเสรีแบบที่เกิดช่องว่างเวลานี้ได้บ้างครับ

@ข้อเสนอที่เป็นรูปธรรมให้นายกรัฐมนตรีสั่งการในครมหรือมีมติครมในวันนี้เพื่อแก้ไขปิดจุดอ่อนอย่างหนึ่งอย่างใดหรือหลายอย่างดังนี้ครับ

1)วันนี้ควรมีมติคณะรัฐมนตรี ใดๆ ในการห้ามใช้เสพ สูบ ปรุง หรือด้วยวิธีอื่นใด ห้ามเฉพาะช่อดอกกัญชามาใช้ในทางสันทนาการทุกกรณี เว้นแต่เพื่อการปรุงยาทางการแพทย์ปัจจุบันและแพทย์แผนไทย หรือเพื่อสกัดน้ำมันกัญชาที่ต้องเจือจางทันทีให้สารthc ที่มีอยู่สูงในดอกช่อกัญชา2-10%หรือ5-20%โดยธรรมชาติ ให้เจือจางเหลือแค่ไม่เกิน0.2%ทันที

2)ออกพระราชกำหนดขึ้นควบคุมการใช้ดอกช่อกัญชาตามข้อเสนอ1และมีมาตรการควบคุมการปลูก ขนย้าย นำเข้า ส่งออก ดอกช่อกัญชา ซึ่งมีสารthcอยู่มากโดยธรรมชาติ สูง2-10%หรือ5-20% แล้วแต่สายพันธุ์ เพราะกว่าพรบ. จะผ่านสภาผู้แทนราษฎร ผ่านวุฒิสภา ที่เชื่อว่าจะแก้ไขแน่นอน และต้องตั้งกมธ. ร่วม จะเกิดช่องว่างช่องโหว่ ไปอีกประมาณ1ปี ทั้งๆที่ควรเสนอพรบ.นี้มาตั้งแต่ต้น เพราะพรบ.กัญชามารักษาโรค สภาอนุมัติเมื่อ25ธค.2561 ประกาศใช้2562 มีบทเฉพาะกาลให้เตรียมตัว และมาแก้ไขพรบประมวลยาเสพติดปลดล้อคตามมาอีก3ปี ทำไมเพิ่งมาส่งพรบ.เข้าสภาวันที่ 8 มิย. ซึ่งวันที่9ปลดล็อค ตุกติกtechnical law เหมือนกับคดีหมดอายุความออกโฉนดบุกรุกป่าเขาใหญ่

ผลร้ายที่ตามมาจะมากมายเหลือคณานับ การเข้าถึงผู้เสพหน้าใหม่ ของเด็กเยาวชน ขบวนการยาเสพติดและกลุ่มนายทุนค้ากัญชาเสรี ได้ประโยชน์จากเงินใต้ดินหลายหมื่นล้าน แต่ส่งผลเสียระยะยาว

3) ให้กระทรวงสาธารณสุขหรือมติครม ออกประกาศหรือระเบียบแยกการใช้กัญชาเป็น 3 ประเภทคือ1 กัญชาครัวเรือน 2กัญชาการค้า3กัญชาการแพทย์

ที่สำคัญกลุ่มกัญชาการค้าควรมี regulation เช่นในการผสมก๋วยเตี๋ยว คุกกี้ เครื่องดื่ม ต้องขออนุญาตและ มีการตรวจสอบปริมาณ thc ตามกฎหมาย ทุกครั้ง แต่มีปัญหาว่า จะทำอย่างไร ตรวจครั้งละ5000บาท และlab3-5ล้าน ยังไม่เพียงพอ

4) มาตรการกำกับห้วงนี้ท่านนายกในฐานะประธานคณะกรรมการตำรวจ ต้องสั่งการให้ตำรวจตรวจสอบเส้นทางขนย้าย การจำหน่ายกัญชาชนิดสามารถสูบได้ ซึ่งตอนนี้มีวางขายทางอินเตอร์เน็ตทั้งใน shopee Facebook และทวิตเตอร์ เป็นต้น แม้เวลานี้ไม่มีกฎหมายบังคับ เพราะกัญชาไม่เป็นยาเสพติดประเภท5แล้ว สตช จะต้องไปตรวจดูมาตรการทางกฎหมายอื่นถ้าผิดกฎหมายอื่นให้จับแล้วออกข่าว เพื่อป้องปรามให่คนเกรงไม่กล้าออกขายแบบเสรี

5) จัดทุนวิจัยให้กับมหาวิทยาลัยในการศึกษาวิจัยผลกระทบเชิงนโยบายในแง่ความคุ้มทุนเพื่อ นำผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจมาชั่งน้ำหนักกับผลเสียทางสังคม

@ย้ำ งานวิจัยนี้ไม่ควรมอบให้กระทรวงสาธารณสุขทำเพราะเป็นเจ้าของเรื่องจะมีอคติในการแปลผล ควรให้กระทรวงอุดมฯ หรือกระทรวงพัฒนาสังคมทำ เร่งสรุปเสนอ

@สุดท้าย ท่านนายกรัฐมนตรี ผู้นำฝ่ายบริหาร ที่ประชาชนฝากความหวัง ควรเร่งสั่งการแก้ไขอย่าปล่อยให้เกิดหลุมดำหรือสูญญากาศเสรีกัญชาประเทศเดียวในโลก จะทำให้ภาพพจน์ประเทศไทยเสียหาย กลายเป็น HUB แดนสวรรค์กัญชาของโลกในวันนี้เลย

@ผมยืนยัน ว่า สนับสนุนกัญชาทางการแพทย์และคัดค้านกัญชาเสรีสันทนาการที่ไร้การควบคุมกำกับดูแล ไร้ความรับผิดชอบต่อสังคมครับ

สมชาย แสวงการ

สมาชิกวุฒิสภา อดีตสนช.ผู้เสนอกฎหมายและประธานคณะกรรมาธิการพิจารณาวิสามัญแก้ไขพรบยาเสพติดให้นำกัญชามาใช้ทางการแพทย์ เมื่อพศ.2562