posttoday

“ธรรมนัส”รับพรรคเล็กเสียงยังแตกโหวตงบปี2566

01 มิถุนายน 2565

พรรคเล็กเสียงแตกยังตกลงไม่ได้โหวตรับไม่รับงบประมาณปี2566 "ธรรมนัส" ลั่นต้องโหวตไปในทิศทางเดียวกัน

เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.2565 กลุ่ม 16 นำโดย นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทรักธรรมนายสุรทิน พิจารณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปไตยใหม่ นายดำรงค์ พิเดช ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย นายคฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อชาติไทย ได้เข้าพบกับร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา เลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย ที่ห้องของพรรคประชาธิปไตยใหม่ ที่รัฐสภา ประมาณ 10 นาที

ร.อ.ธรรมนัส กล่าว หลังการหารือกับกลุ่ม 16 ว่า ได้หารือทิศทางภาพรวมการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 66 ว่ามีทิศทางอย่างไร เนื่องจากหลายคนมีความสับสนว่าจะตัดสินใจอย่างไรในการโหวต จึงมีข้อสรุปกันว่าขอให้ฟังการอภิปรายในสภาให้จบก่อน

อย่างไรก็ตาม เดิมมีการให้ข่าวว่าจะรับหลักการ แต่ตอนนี้เสียงแตก จึงให้ทิศทางว่าต้องหารือกันว่าจะทำอะไร จะรับหลักการหรือไม่รับหลักการต้องไปในทิศทางเดียวกันทั้ง 18 เสียงของกลุ่ม 16 รวมถึง 18 เสียงของพรรคเศรษฐกิจไทยต้องไปในทิศทางเดียวกัน เพราะเราจับมือกัน จากที่ให้คำปรึกษาจึงได้ข้อสรุปว่าจะทำงานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

ทั้งนี้ เมื่อถามย้ำว่า ก่อนหน้านี้ พรรคเศรษฐกิจไทย ระบุว่าจะโหวตผ่านให้รัฐบาล ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ขอดูสาระสำคัญก่อน ถ้ามีสาระสำคัญที่เกิดประโยชน์กับประชาชน งบประมาณ 3.18ล้านล้านบาท ก็ผ่าน แต่ถ้ามีประเด็นใดที่ส.ส.อภิปราย แล้วพบมีความเสียหายกับบ้านเมือง ก็ต้องมานั่งคิด หลักการเรายังเหมือนเดิม และที่ผ่านมา 2 วัน ยังไม่มีประเด็นใดที่ทำให้รู้สึกเกิดความเสียหาย แต่วันนี้และวันที่2 มิ.ย.จะมีประเด็นสำคัญ สมาชิกของพรรคเศรษฐกิจไทยจะขึ้นอภิปราย 7 คน ส่วนตนเองจะเกริ่นนำก่อน แต่ต้องดูเวลาที่ได้จัดสรรอีกที เพราะไม่อยากไปแย่งเวลาสมาชิก และอยากอภิปรายในประเด็นที่เป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน

ขณะเดียวกันเมื่อถามว่า กลุ่ม 16 ไปพบทั้งนายกรัฐมนตรี และร.อ.ธรรมนัส และถูกวิจารณ์ว่ามีเรื่องผลประโยชน์มาเกี่ยวข้อง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ใช่ และที่กลุ่ม 16 มาคุยกับตนเอง เป็นการมาสรุปให้ฟังว่าเขายึดหลักผลประโยชน์ของประเทศชาติ ส่วนที่ไปพบกับนายกฯเป็นเรื่องอื่น เมื่อถามอีกว่าจะโหวตไปในทิศทางเดียวกันใช่หรือไม่ ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า เราคุยกันมาตลอดว่าจะจับมือเดินไปด้วย และสมาชิกกลุ่ม 16 หลายคน จะมาลงเลือกตั้งกับพรรคเศรษฐกิจไทย ในครั้งหน้า และ เมื่อถามว่าพรรคร่วมระบุว่าอยากให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐพูดคุยกับกลุ่ม 16 ด้วยตัวเอง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ก็คุยอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าพรรคเศรษฐกิจไทยได้โควต้าสัดส่วนกรรมาธิการงบประมาณหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ปีที่แล้วพรรคพปชร.ได้โควต้า 13 ที่นั่งครั้งนี้ได้10 ที่นั่ง ดังนั้นพรรคเศรษฐกิจไทย ควรได้3 ที่นั่ง ส่วนโควต้าครม.ค่อยมามาเฉลี่ยอีกที

ด้าน นายพิเชษฐ กล่าวว่า จากการฟังคำอธิบายของฝ่ายค้านมีหลายประเด็นที่จะต้องนำมาพิจารณา โดยเฉพาะการที่ฝ่ายค้านท้วงติงว่าการจัดสรรงบไม่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจหรือการเพิ่มการสร้างงานสร้างรายได้ก็ไม่ครอบคลุม โดยยืนยันว่า กลุ่ม 16 ตั้งขึ้นมาเพื่อรักษาผลประโยชน์ประเทศชาติฉะนั้นผลการลงมติที่จะเกิดขึ้นสมาชิกเห็นว่าจะต้องเป็นไปอีกในแนวทางเดียวกัน เราะอยากเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่สมบูรณ์นี่คือเหตุผลที่จะต้องมีการเรียกหารือเพื่อให้ได้ข้อสรุป

ทั้งนี้ยอมรับว่า การลงมติเป็นเอกสิทธิ์ส.ส.ตนสั่งไม่ได้หัวหน้าพรรคก็สั่งไม่ได้เป็นหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎร แต่เนื่องจากเราเป็นกลุ่มก็ต้องทำหน้าที่อย่างเต็มที่โดยเฉพาะประเด็นท่อส่งน้ำอีอีซี ซึ่งประชาชนไม่เห็นด้วย และยืนยันที่จะต่อต้านการทุจริตทุกรูปแบบอยู่ที่รัฐบาลจะนำไปพิจารณาอย่างไร

สำหรับที่มีการมองว่ามีการนำประเด็นโควตากรรมาธิการงบประมาณมาต่อรองเพื่อลงมตินั้นยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเพียงการเสนอตัวเพราะเห็นว่า นายพีระวิทย์ ไม่เคยทำหน้าที่ดังกล่าว เป็นเพียงการเสนอไปเท่านั้น ยืนยันว่าให้สิทธินายกในการนำไปพิจารณาไม่ว่าท่านนายกจะให้หรือไม่ให้ก็จะไม่ติดใจอะไร

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สมาชิกในกลุ่มยังมีความเห็นที่หลากหลายซึ่งคงต้องมีการพูดคุยเพื่อหาแนวทางที่ชัดเจนก่อนการลงมติวันพรุ่งนี้(2มิ.ย.) ยอมรับว่าจากการที่ได้ฟังคำอภิปรายตลอด 2 วันที่ผ่านมาสมาชิกยังมีข้อสงสัยในหลายประเด็น ทั้งประเด็นที่ฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตการตั้งงบประมาณยังไม่มีความสมดุลไม่รอบคอบ แต่ขณะเดียวกันก็ต้องรอฟังคำชี้แจงจากทางฝั่งรัฐบาลด้วยเช่นกัน

“การที่เราจะแถลงว่าสนับสนุนรัฐบาลเลยมันเป็นเรื่องที่ไม่สมควรต้องรอให้จบกระบวนการก่อน การที่จะมีมติตอนนี้คงไม่ใช่การทำหน้าที่ของผู้แทนราษฎร” นายพิเชษฐ กล่าว

นายพิเชษฐ ยอมรับว่า ได้มีการพูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อขอให้ นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค หัวหน้าพรรคไทรักธรรม เป็นกรรมาธิการงบประมาณ ในสัดส่วนของกลุ่ม 16 เนื่องจากเห็นว่า ซึ่งในพีระวิทย์ทำหน้าที่ส.ส.มาหลายปีแต่ยังไม่เคยทำหน้าที่ตรงนี้ ส่วนประเด็นท่อส่งน้ำอีอีซี เท่าที่ฟังเจตนารัฐมนตรีที่เสนอเห็นได้ชัดว่ามีความกระตือรือร้นในการที่จะเซ็นสัญญาแต่เมื่อพูดคุยกับนายกท่านรับปากว่าจะพิจารณาทบทวนก็ถือว่าพอใจยืนยันว่าเรื่องนี้ตนเองจะไม่ยอมอย่างเด็ดขาด