posttoday

"เสรีรวมไทย"ถามประยุทธ์ จัดงบประมาณเอาใจพรรคร่วมใช่หรือไม่

30 พฤษภาคม 2565

"นภาพร" ส.ส.พรรคเสรีรวมไทย ถาม "ประยุทธ์" จัดงบประมาณเพื่อเอาใจพรรคร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ ซัดยิ่งใช้งบชาวบ้านยิ่งยากจนประเทศยิ่งเป็นหนี้ แล้วจะโหวตให้ผ่านได้อย่างไร

เมื่อวันที่ 30 พ.ค. 65 น.ส.นภาพร เพ็ชร์จินดา ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเสรีรวมไทย ยืนยันว่าฝ่ายค้านไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาล้มร่าง พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2566 อย่างที่ฝ่ายรัฐบาลออกมากล่าวหา เพียงแต่ฝ่ายค้านเห็นว่าการจัดงบของรัฐบาลไม่มียุทธศาสตร์หรือเป้าหมายที่ชัดเจนว่าจะให้ความสำคัญกับเรื่องอะไรก่อนหลังกันแน่ เพราะเป็นการจัดงบประมานกระจายไปยังกระทรวงต่างๆ แบบเบี้ยหัวแตก สิ่งที่ควรจะให้ความสำคัญมากที่สุดอย่างการฟื้นฟูเศรษฐกิจ การสร้างงานสร้างรายได้เพื่อแก้ปัญหาคนตกงานว่างงานจากพิษโควิดอีกนับล้านคนกลับไม่เน้น แต่ไปเน้นเรื่องการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ให้กองทัพ

พล.อ.ประยุทธ์ใช้งบประมาณมา 8 ปี ทำไมจึงมีแต่หนี้เพิ่ม ทั้งหนี้ประเทศและหนี้ครัวเรือน แถมยังทำให้ตัวเลขคนจนเพิ่มขึ้นมาถึง 20 ล้านคนอีก อย่างนี้ฝ่ายค้านควรจะให้ความเห็นชอบด้วยหรือ ที่สำคัญมีข่าวว่ามีการใช้การจัดสรรงบประมาณไปต่อรองกับเรื่องการย้ายพรรค ซึ่งมีการรายงานข่าวออกมาอย่างชัดเจน ถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น แต่มันก็เกิดขึ้นแล้วและคาดว่า พล.อ.ประยุทธ์ก็คงจะทราบข้อมูลดีจึงมีการออกมาพูดปรามเป็นบางครั้ง แต่ก็เชื่อว่าจะไม่มีผลอะไร เพราะ พล.อ.ประยุทธ์เกรงใจทั้งพรรคร่วมรัฐบาลและ ส.ส.พรรคเล็กเพราะกลัวจะถูกโหวตคว่ำกลางสภา จึงอยากถามว่าการจัดงบประมาณครั้งนี้ต้องการเอาใจพรรคร่วมมากกว่าการฟื้นฟูเศรษฐกิจให้ประชาชนใช่หรือไม่

"เป็นไปไม่ได้เลยที่การกระทำซ้ำๆแบบเดิมจะทำให้ได้คำตอบแบบใหม่หรือผลลัพธ์แบบใหม่ การจัดงบประมาณแผ่นดินก็เช่นเดียวกัน หากรัฐบาลไม่มียุทธศาสตร์หรือเป้าหมายที่ชัดเจนในการนำงบไปใช้เพื่อการเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจ ก็อย่าหวังว่าพอใช้งบหมดไปแล้วเศรษฐกิจจะดีขึ้นหรือความเป็นอยู่ของประชาชนจะดีขึ้น หนี้สินของประเทศจะหมดไป เหมือนกับที่รัฐบาลเคยใช้งบแก้ปัญหาความยากจนทุกๆปี แต่ปรากฏว่าตัวเลขคนจนกลับเพิ่มขึ้น หนี้สินครัวเรือนก็เพิ่มขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน อย่างนี้ยังจะให้ฝ่ายค้านไว้ใจการใช้งบประมาณของรัฐบาลได้อย่างไร นี่คือเหตุผลที่ฝ่ายค้านจะไม่ยกมือให้ผ่าน ไม่ใช่ตั้งหน้าตั้งตาล้มร่างงบประมาณอย่างที่ฝ่ายรัฐบาลบางคนออกมากล่าวหา" น.ส.นภาพรกล่าว