posttoday

"อนุทิน"ไม่สนข่าวลือล้ม"ประยุทธ์"ยันหนุนรัฐบาลทำงานต่อไป

03 พฤษภาคม 2565

หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยลั่นยังหนุนให้รัฐบาลทำงานร่วมกันต่อไป ย้ำในพรรคร่วมรัฐบาลไม่มีกระบวนการล้มนายกฯยังต้องทำงานรับผิดชอบร่วมกันต่อไป

เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมาษณ์ถึงกรณีเป็น 1 ในบุคคลที่อยู่ในบัญชีรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เรื่องการดำรงตำแหน่งวาระ 8 ปี และมีข่าวลืมจะซื้อส.ส.จะล้มนายกฯว่า บัญชีรายชื่อดังกล่าวเป็นผลพวงมาจากการเลือกตั้งเมื่อปี 62 ที่ทุกพรรคต้องเสนอรายชื่อบุคคลที่สมควรเป็นนายกฯ เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ดูจากตัวเลขมันไม่น่าจะเป็นไปได้ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่น่าเป็นไปได้ ส.ส.แต่ละคนถ้าเข้ามาแล้วทำตัวแบบนี้ แต่ละพรรคการเมืองต้องมีมาตรการมีการบริหารจัดการ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยไม่มีแบบนี้ เมื่อถามว่า กระบวนการล้มนายกฯ มีจริงหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มี ถ้าเป็นในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลเราต้องทำงานและรับผิดชอบร่วมกัน ต่อข้อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าในช่วงเดือน ส.ค.สถานการณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จะแย่มาก ทางพรรคภูมิใจไทยจะมีแนวทางช่วยอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า เราสนับสนุนรัฐบาลอยู่แล้ว เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกันได้ นายกฯ เป็นผู้มอบนโยบายมาให้แต่ละกระทรวงปฏิบัติ หากนายกฯ หรือตนถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจก็ต้องชี้แจงให้ได้ ถ้าไม่ใช่เรื่องที่ไม่สามารถชี้แจงได้ หรือเกิดการทุจริตอย่างเห็นได้ชัด ก็ต้องสนับสนุนกันไป เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกันมาแต่ไหนแต่ไร ไม่ใช่สิ่งใหม่

เมื่อถามถึงกระแสข่าวการซื้อตัว ส.ส.เพื่อล้มนายกฯ จะเริ่มตั้งแต่การลงมติร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องไปถามคนที่ซื้อที่ขาย แต่ในพรรคร่วมรัฐบาลไม่มี และหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลแต่ละพรรคยังไม่ได้นำเรื่องการควบคุม ส.ส.ไม่ได้หรือเรื่องหากโหวตตอนนี้เสร็จแน่มาหารือว่าจะทำอย่างไรต่อไป เมื่อเกิดกรณีแบบนี้นายกฯต้องตัดสินใจในทางการเมือง แต่ตอนนี้ไม่ได้มีแบบนั้น ทุกคนทำงานเต็มที่ และสนับสนุนให้การทำงานของรัฐบาลราบรื่นเรียบร้อย

เมื่อถามว่า มองบทบาทของพรรคเล็กที่เคลื่อนไหวตอนนี้อย่างไร เพราะพรรคเล็กเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเหมือนกัน นายอนุทิน กล่าวว่า ตนไม่ได้ติดตามข่าวเลย ทำแต่งาน