posttoday

กลาโหมโต้ "ปวีณ" ชี้กล่าวหาไม่มีหลักฐาน ไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ

25 เมษายน 2565

"กลาโหม" โต้ พล.ต.ต.ปวีณ ชี้การกล่าวหาเชื่อมโยงพาดพิงเรื่องค้ามนุษย์ทั้งที่ไม่มีหลักฐาน ไม่เป็นประโยชน์กับประเทศในภาพรวม

พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว กรณีมีการเผยแพร่บทสัมภาษณ์ของ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ จากสำนักข่าวอัลจาซีรา และมีการพาดพิงว่า ทหารเข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์

พล.อ.คงชีพ กล่าวว่า การพาดพิงดังกล่าวดูจะไม่ให้ความยุติธรรมกับกำลังทหารและกองทัพในภาพรวม ซึ่งที่ผ่านมา กองทัพได้เข้าสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลอย่างแข็งขัน ในการแก้ปัญหาสำคัญๆที่เป็นวาระแห่งชาติ โดยเฉพาะ การแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นปัญหาที่สั่งสมมาต่อเนื่องยาวนานในหลายรัฐบาลที่ผ่านมา

ขอยืนยันว่า กระทรวงกลาโหม สนับสนุนรัฐบาลในการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์อย่างแข็งขัน และมีนโยบายชัดเจนห้ามกำลังพลเข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ หรือ สิ่งผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาด ซึ่งผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นต้องกำกับดูแลกำลังพล หากปรากฏพบการกระทำผิดของกำลังพล ถือเป็นเรื่องส่วนบุคคล ที่ต้องสอบสวนเอาผิดทั้งทางวินัยและอาญาให้ถึงที่สุด โดยให้สืบเชื่อมโยงกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่มีการปกป้องหรือยกเว้นเป็นเด็ดขาด และ กระทรวงกลาโหมจะไม่เก็บคนเหล่านี้ไว้ในกองทัพ ให้เกิดความเสื่อมเสียกับองค์กรและประเทศชาติ

สำหรับคดีการจับกุม พล.ท.มนัส คงแป้น ในข้อหาค้ามนุษย์ที่ผ่านมา เป็นการยืนยันถึงความจริงใจในการบังคับใช้กฎหมายแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ในสมัยยุครัฐบาล คสช. โดยมีการทำงานร่วมกับภาคประชาสังคมและองค์การระหว่างประเทศ ซึ่งหากมีการช่วยเหลือ แทรกแซงกระบวนการยุติธรรมและปกป้องกันจริง พล.ท.มนัส คงไม่ติดคุกและได้รับการประกันตัว ซึ่งขณะนี้ความคืบหน้าคดีมีการสืบสวนออกหมายจับแล้ว 153 หมาย มีผู้ต้องหาถูกจับกุมแล้วกว่า 120 ราย

การกล่าวหาเชื่อมโยงพาดพิง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งเป็นแกนหลักระดับนโยบายของรัฐบาล ในการนำและขับเคลื่อนการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์อย่างจริงจังที่ผ่านมา จนสถานภาพและปัญหาการค้ามนุษย์ของประเทศไทยดีขึ้นตามลำดับ โดย

การกล่าวหาที่ไม่มีข้อมูลและหลักฐานเชิงประจักษ์ จะเป็นการสร้างความสับสนกับสังคมและต่างประเทศ ซึ่งไม่เป็นผลดีกับการประเมินสถานภาพการจัดอันดับการค้ามนุษย์ของประเทศไทยที่จะมีขึ้น และจะกระทบต่อผลประโยชน์ของประเทศชาติในภาพรวม

โฆษก กระทรวงกลาโหม กล่าวเพิ่มเติมว่า การแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย ความตื่นตัว เรียนรู้ร่วมกันถึงความพยายามที่จะร่วมแก้ปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ปัจจุบัน ถือเป็นพัฒนาการร่วมกัน ซึ่งกองทัพ พร้อมรับข้อมูลและเบาะแสจากทุกฝ่าย หากมีการเชื่อมโยงถึงกำลังพลนอกแถวในกองทัพที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์และการกระทำที่ผิดกฎหมายอื่นๆ และก็อยากให้บุคคลที่ออกมากล่าวหา นำข้อมูลหรือหลักฐานข้อเท็จจริงที่ได้รับหรือมีเพิ่มเติม ออกมานำเสนอสังคมหรือทางราชการ เพื่อประโยชน์ในการสืบสวนเอาผิดและร่วมกำจัดขบวนการค้ามนุษย์ในไทยให้หมดสิ้นไป