posttoday

"เพนกวิน"ได้ประกันตัวแล้วศาลกำหนดเงื่อนไขเข้ม

24 กุมภาพันธ์ 2565

ศาลอาญากรุงเทพใต้ให้ประกันแล้ว "เพนกวิน" ตีราคาประกัน 2 แสนปล่อยชั่วคราว 3 เดือนถึง 24 พ.ค.กำหนดเวลาอยู่บ้าน-ห้ามทำกิจกรรมสร้างความวุ่นวาย-กระทบสถาบันฯ และศาล

เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ภายหลังทนายความของนายพริษฐ์ หรือ เพนกวิน ชิวารักษ์ ยื่นเอกสารเพิ่มเติมยืนยันการศึกษาและการเตรียมสอบเพื่อจบการศึกษาของนายพริษฐ์ต่อศาลวันนี้ ประกอบคำร้องขอปล่อยชั่วคราวชั้นพิจารณา คดีอาญาหมายเลขดำ 1180/2564 แล้ว ศาลมีคำสั่งว่า พิเคราะห์จากคำร้องเอกสารประกอบคำร้อง ซึ่งคณบดีคณะรัฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ได้ออกหนังสือรับรองสถานภาพการศึกษาและเงื่อนไขที่จำเลยที่ 1 เสนอต่อศาล เห็นควรอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวในช่วงเวลาอันจำกัด เพื่อให้โอกาสจําเลยที่ 1 ได้ออกไปศึกษา ในภาคการศึกษาที่ 2 ปีการศึกษา 2564 สักช่วงเวลาหนึ่งมีกำหนด 3 เดือน (ครบกำหนดวันที่ 24 พ.ค.65) ตีราคาหลักประกัน 200,000 บาท

โดยระหว่างปล่อยชั่วคราว เห็นควรกําหนดเงื่อนไขดังนี้ 1.ห้ามจําเลยที่ 1 ทำกิจกรรมหรือกระทำการใด ๆ อันจะทำให้เกิดความเสื่อมเสียหรือด้อยค่า ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และสถาบันศาลในทุกด้าน 2.ห้ามกระทําการใด ๆ อันเป็นการขัดขวางกระบวนพิจารณาคดีของศาล 3.ห้ามจำเลยที่ 1 โพสต์ข้อความปลุกปั่นในสื่อโซเชียลมีเดีย หรือเข้าร่วมชุมนุมที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง 4.ห้ามจําเลยที่ 1 ออกนอกเคหสถานในช่วงเวลา 18.00 น. ถึงเวลา 06.00 น.ของวันใหม่เว้นแต่มีเหตุจำเป็นเพื่อการรักษาพยาบาลหรือได้รับอนุญาตจากศาล 5.ห้ามจําเลยที่ 1 เดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล 6.ให้ติดอุปกรณ์ติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์ EM เพื่อจำกัดระยะเวลาเดินทาง โดยศาลให้มีหนังสือแจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทราบด้วย

ทั้งนี้ ในการปล่อยชั่วคราว หากจําเลยที่ 1 ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าว ศาลอาจมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงหรือเพิกถอนคําสั่งให้ปล่อยตัวชั่วคราวอันมีเวลาจํากัดและเมื่อครบกําหนดปล่อยตัวชั่วคราวให้จําเลยที่ 1 มารายงานตัวต่อศาล และให้นายประกันส่งตัวจําเลยที่ 1 มาศาลในวันที่ 24 พ.ค.65 เวลา 10.00 น. โดยวันนี้เมื่อทนายความได้ยื่นหลักทรัพย์วางเป็นหลักประกันตามจำนวนครบถ้วน ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้เรียบร้อยแล้ว นายพริษฐ์ก็จะได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำตามขั้นตอนต่อไป

สำหรับนายพริษฐ์ หรือเพนกวิน เมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา ทนายความก็ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวคดีอาญาในศาลอาญา รวม 8 คดีไปแล้ว ซึ่งศาลอาญามีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวนายพริษฐ์ โดยมีกำหนดเวลา 3 เดือน ตีราคาประกัน 8 คดี วงเงินตั้งแต่ 90,000 - 200,000 บาท รวมหลักประกันทั้งหมด 980,000 บาท โดยกำหนดเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวดังกล่าวด้วย 1.ห้ามจำเลยทำกิจกรรมหรือกระทำการใด ๆ ที่อันจะทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และศาลในทุกด้าน 2.ห้ามกระทำการใด ๆ อันเป็นการขัดขวางกระบวนพิจารณาคดีของศาล 3.ห้ามเข้าร่วมชุมนุมที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง 4.ให้ติดอุปกรณ์ติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์ EM 5.ห้ามออกนอกเคหสถานในช่วงเวลา 21.00 น. ถึงเวลา 06.00 น.ของวันใหม่ เว้นแต่มีเหตุจำเป็นเพื่อการรักษาพยาบาล ไปศึกษาเล่าเรียน ไปสถานีตำรวจ สำนักงานอัยการหรือศาลหรือได้รับอนุญาตจากศาล 6.ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล

จากนั้น วันที่ 23 ก.พ. ทนายความได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวคดีอาญา หมายเลขดำ อ.671/2564 ในศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาด้วย ซึ่งศาลก็มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวเช่นกัน ตีราคาประกัน150,00 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขเช่นกันโดยห้ามทำกิจกรรมหรือกระทำการใด ๆ ที่จะทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และศาลในทุกด้าน, ห้ามกระทำการใดอันเป็นการขัดขวางกระบวนการพิจารณาคดีของศาล, ห้ามเข้าร่วมชุมนุมที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง , ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล

ขณะที่ นายอานนท์ นำภา หลังจากที่เมื่อวานนี้ (23 ก.พ.) ศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวในคดีอาญา หมายเลขดำ อ.1671/2564 และ อ.1802/2564 แล้ว วันนี้ (24 ก.พ.) นายอานนท์ ก็ยังไม่ได้มอบอำนาจให้ทนายความยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวใหม่แต่อย่างใด โดยในส่วนของนายอานนท์ ที่มีคดีถูกฟ้องเกี่ยวกับความผิดการชุมนุมฝ่าฝืนกฎหมายและความผิดเกี่ยวกับสถาบัน ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ในศาลอาญา รวม 9 คดีนั้น เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ศาลอาญา ได้มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวโดยมีกำหนดเวลา 3 เดือนเช่นกัน ตีราคาประกันวงเงินตั้งแต่ 90,000 - 200,000 บาท รวมหลักประกัน 9 คดีทั้งหมด 1,090,000 บาท

โดยศาลอาญากำหนดเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวเหมือนกับนายพริษฐ์ที่ 1.ห้ามจำเลยทำกิจกรรมหรือกระทำการใด ๆ ที่อันจะทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และศาลในทุกด้าน 2.ห้ามกระทำการใด ๆ อันเป็นการขัดขวางกระบวนพิจารณาคดีของศาล 3.ห้ามเข้าร่วมชุมนุมที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง 4.ให้ติดอุปกรณ์ติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์ EM 5.ห้ามออกนอกเคหสถานในช่วงเวลา 21.00 น. ถึงเวลา 06.00 น.ของวันใหม่ เว้นแต่มีเหตุจำเป็นเพื่อการรักษาพยาบาล ไปศึกษาเล่าเรียน ไปสถานีตำรวจ สำนักงานอัยการหรือศาลหรือได้รับอนุญาตจากศาล 6.ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล