"สมศักดิ์"แจงยาบ้าถูกใช้นวัตกรรมผลิตแบบใหม่ เทคโนโลยีสูงขึ้น

เมื่อวันที่ 18ก.พ.65 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ชี้แจงต่อสภาผู้แทนราษฎรในการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามมาตรา 152 ว่าการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ต้องขอบคุณผู้อภิปรายที่ได้เสนอแนะแนวทาง แต่ตัวเลขผู้ติดยาบ้าที่มีผู้อภิปรายบอกว่ามีผู้ติดยามากถึง 3.7 ล้านคน อาจจะเข้าใจคลาดเคลื่อน จริงๆ มีประมาณ 1.6 ล้านคน ส่วนผู้เข้ารับการบำบัดในปี 2564 มี 180,000 คนเศษ ส่วนแนวนโยบายการแก้ปัญหายาเสพติด มาตรการป้องกัน ปราบปรามและการบำบัดรักษา เป็น 3 นโยบายหลัก รวมทั้งความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยมีกลุ่ม 6 ประเทศลุ่มน้ำโขง ซึ่งใกล้ชิดแหล่งผลิตยาเสพติดคือ สามเหลี่ยมทองคำ รวมทั้งการบูรณาการงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ในแต่ละปีใช้งบประมาณในการป้องกันและปราบปราม 6,000 ล้านบาท ซึ่งตนได้ปรึกษาหารือสำนักงาน UNODC ระบุว่า มูลค่ายาเสพติดที่สามเหลี่ยมทองคำมีมูลค่า 2.2 ล้านล้านบาท เราก็คิดว่าจะทำอย่างไรกับการปราบปรามตรงนี้ ตั้งแต่ตนมารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ปรึกษาผู้รู้ ทั้งผู้พิพากษา อัยการ ว่าเราจะบริหารงานอย่างไร หากเราทำไม่ถูกต้องเราก็ต้องใช้งบประมาณมหาศาลในการปราบปราม

นายสมศักดิ์ ยืนยันว่า ที่ผ่านมากระทรวงยุติธรรม ได้ดำเนินตามแนวนโยบายของรัฐบาล จัดทำประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ มีการแยกคดีทรัพย์ออกจากคดีอาญา และในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการขยายผลยึดทรัพย์ย้อนหลังได้ 10 ปี และมีความร่วมมือระหว่าง ป.ป.ส. กรมสอบสวนคดีพิเศษ บช.ปส. และหน่วยงานอื่นๆ มีชุดปฏิบัติการพิเศษที่ชื่อว่า “พาลีปราบยา” ส่วนสาเหตุที่ยาบ้ามีราคาถูกลงนั้น เนื่องจากในอดีตสารตั้งต้นยาบ้ามาจากพืช แต่ปัจจุบันมีสารเคมีมากกว่า 12 ชนิดที่ใช้เป็นสารตั้งต้น และเครื่องจักรในการผลิตมีเทคโนโลยีที่สูงมากขึ้น รวมถึงการปล่อยสินค้าเป็นแบบเครดิต ขายก่อนแล้วค่อยเคลียร์เงินทีหลัง และความสะดวกสบายในการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ มาช่วย เช่น การซื้อขายผ่านออนไลน์ และทางพัสดุภัณฑ์ ทำให้ลดต้นทุน ลดคนกลาง ทำให้ขายได้มาก และรวดเร็ว”

ส่วนสาเหตุที่ประเทศไทยถึงเป็นจุดพักยาเพื่อส่งออกไปยังประเทศที่สาม นายสมศักดิ์ อภิปรายว่า เพราะประเทศไทยมีภูมิศาสตร์ที่ติดกับแหล่งผลิตใหญ่ ซึ่งระบบขนส่งของไทยดีที่สุดในอนุภาคลุ่มน้ำโขง เส้นทางต่างๆ เชื่อมโยงถึงกัน ตนในฐานะประธานศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ ได้สั่งตั้งคณะกรรมการ 7 คณะ เพื่อป้องกันยาเสพติดเชิงรุกมากขึ้น เช่น ชุดที่ 1 คือ อนุกรรมการสกัดกั้นการลักลอบส่งออกและนำยาเสพติดผ่านช่องทางศุลกากร ที่ดึงศุลกากรเข้ามาร่วมทำงานเพื่อสกัดกั้นยาเสพติด ที่ลักลอบโดยใช้เส้นทางอากาศและทางเรือ ชุดที่ 2 คือ คณะอนุกรรมการสกัดกั้นยาเสพติด ที่มีผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นประธาน โดยจะเจาะลึกไปทุกภาคส่วน เช่น กรมการขนส่งทางบก การรถไฟแห่งประเทศไทย การท่าเรือแห่งประเทศไทย บริษัทท่าอากาศยานไทย และบริษัทไปรษณีย์ไทย เพื่อตัดช่องทางการลำเลียงและกระบวนการส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยที่ผ่านมาต่างชาติยอมรับการทำงานของประเทศไทย เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2564 ออสเตรเลียมอบรางวัลให้กับไทย โดยนายอัลลัน แมคคินนอน เอกอัครราชฑูตออสเตรเลีย เป็นผู้มอบ และผมเป็นตัวแทนรับมอบ