posttoday

ฝ่ายค้านพุ่งเป้าซักฟอกถล่มรัฐบาล"แพง-จน-พัง"

16 กุมภาพันธ์ 2565

"สุทิน"มั่นใจหลังอภิปรายมีอาฟเตอร์ช็อกอาจจะถึงขั้นเปลี่ยนแปลงผู้นำ"ศิริกัญญา"เผย"ก้าวไกล"คุ้ยทุจริตเตรียมขยายผลยื่นองค์กรอิสระตรวจสอบ

เมื่อวันที่ 16 ก.พ.2565 นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านหรือวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า การอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามม.152 ระหว่างวันที่ 17-18 ก.พ.นี้ว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านมีความพร้อมเต็มที่ โดยในส่วนของพรรคพท.นั้น จะมีการตัดตัวผู้อภิปรายในรอบสุดท้ายเพื่อให้เกิดความกระชับที่สุด คาดว่าจะเหลือผู้อภิปรายประมาณ 29 คน

สำหรับเนื้อหาสาระที่จะใช้อภิปรายนั้น จะมีทั้งประเด็นเก่าที่มีรายละเอียดลึกกว่าเดิม และประเด็นใหม่ที่เพิ่งเกิดสดๆ โดยเฉพาะความล้มเหลวในการบริหารด้านเศรษฐกิจ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ตอบไม่ได้แน่ ปัญหาการจัดการการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นที่มีอย่างต่อเนื่อง เมื่อสังคมได้รับฟังเนื้อหาแล้วจะตะลึงถึงความผิดพลาดและความย่อหย่อนของรัฐบาลอย่างชัดเจน

"ผมมั่นใจว่าผลที่ได้จากการอภิปรายในครั้งนี้ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น เป็นประโยชน์กับประชาชน จะเกิดความเปลี่ยนแปลงทั้งในระดับการบริหาร เปลี่ยนแปลงในระดับรัฐมนตรี และอาจจะถึงขั้นเปลี่ยนแปลงผู้นำ เพราะเกิดวิกฤตศรัทธาขั้นรุนแรง หลังจากนี้มีอาฟเตอร์ช็อกแน่นอน"นายสุทิน กล่าว

สำหรับที่ พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่าไม่หนักใจ ไม่ให้ราคานั้น อาจเป็นเพราะไม่มีการลงมติ ท่านเลยเบาใจ ไม่ต้องเข็นกล้วยออกจากสวน แต่อย่าลืมว่ามือในสภาไม่เท่าศรัทธาของประชาชน ซึ่งการไม่ลงมติในครั้งนี้ถือว่าดีกับฝ่ายค้านมากกว่า เพราะถ้าลงมติมือเราก็แพ้พวกคุณ แต่ถ้าไม่ลงมติก็ไม่ได้มีข้อบ่งชี้ว่าใครแพ้ ใครชนะ แต่ทุกครั้งหลังการอภิปรายจะมีการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ซึ่งฝ่ายค้านจะได้คะแนนดีกว่ามาตลอด ส่วนรัฐบาลจะสอบตก

ทั้งนี้มีรายงานว่าพรรคเพื่อไทยได้วางยุทธศาสตร์การอภิปรายครั้งนี้ภายใต้สโลแกน"แพง-จน-พัง"คือ อภิปรายเรื่องของแพงทั้งแผ่นดิน จนทำให้ประชาชนยากจนมากขึ้นจนทำให้ประเทศพัง โดยพรรคได้วางให้ น.พ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยจะอภิปรายปูพรมประมาณ1ชั่วโมง ส่วนคนอภิปรายสรุปปิดท้ายคือนายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน

ด้านนายสมคิด เชื้อคง ส.ส.พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ในการอภิปรายทั่วไป? พรรคพท.มีการติว ซึ่งจะเสร็จค่ำๆ? แล้วได้มีการแยกประเด็นติว? แบ่งเป็น? 4 กลุ่ม? พท.เตรียมพร้อมเต็มอัตราศึกและมีผู้อภิปรายตอนนี้ที่เช็กล่าสุดมีทั้งหมด 35 คน และพท.ได้รับกรอบเวลา? 760 นาที? ทางพรรคพท.เน้นเรื่องทั่วไป?อย่าง? เรื่องข้าวของราคาแพง? ราคาพืชผลทางการเกษตร? ซึ่งบางเรื่องได้ตั้งกระทู้ถามแล้วแต่เราต้องการความชัดเจนขึ้น นอกจากนี้ยังมีเรื่องของรถไฟฟ้าสายสีเขียว สายสี?ส้ม? และเรื่องเหมืองทองอัคราด้วย?

ขณะที่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล หัวหน้าทีมเตรียมการอภิปรายพรรคก้าวไกล กล่าวว่า พรรคเตรียมพร้อมเรื่องนี้ มาตั้งแต่เดือน ต.ค.2564 แล้ว อย่างไรก็ตามเมื่อยืด มา ณ เวลานี้ ปี 2565 ทำให้มีเวลาเตรียมตัว สามารถลงรายละเอียดได้มากขึ้น

ทั้งนี้เอาเข้าจริงปัญหา ที่เราเคยคิดว่ามันมีมา ตั้งแต่ ต.ค. 2564 ถึงเดือน ม.ค.-ก.พ. 2565 ไม่ได้ถูกแก้ไข หลายเรื่องเลวร้ายขึ้นด้วย ยิ่งทำให้แม้ว่าจะเป็นการอภิปรายทั่วไป เป็นเพียงการซักถามข้อเท็จจริงรัฐบาล แต่ประเด็นปัญหา ก็มีเนื้อมีน้ำมากขึ้น เมื่อปัญหายิ่งหมักหมม

อย่างไรก็ตามการอภิปรายของพรรค จะเเบ่งเป็น 2 ส่วน โดยวันเเรก จะอภิปรายปัญหาทางเศรษฐกิจ เช่น เรื่องค่าครองชีพแพงทุกมิติ เกษตรกรเผชิญปัจจัยราคาการผลิตสูงขึ้น และเจอปัญหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 ส่วนในวันที่สอง มีเรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน และประเด็นปัญหา ใหม่ ๆ ที่จะนำเสนอเป็นที่แรก

“ไม่สามารถที่จะรอให้ถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ เพราะนี่อาจจะเป็นการอภิปรายครั้งสุดท้าย แล้วก็ได้ก่อนจะยุบสภาฯ หลาย ๆ เรื่อง ก็เพียงพอที่จะ สามารถรวบรวมเอกสารหลักฐาน ไปยื่นต่อองค์กรอิสระต่าง ๆ เพื่อนำไปสู่การ ตรวจสอบ สอบสวนข้อเท็จจริงต่อไป” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว

ทั้งนี้เมื่อถามว่า มีกี่เรื่องที่พรรคก้าวไกล เล็งจะนำไปยื่นต่อองค์กรอิสระ เช่น ป.ป.ช. เพื่อเอาผิดรัฐบาลหลังการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ถ้าเป็นของพรรคก้าวไกล น่าจะมีอย่างน้อย ประมาณ 2-3 เรื่อง ที่น่าจะเข้าข่ายนำไปยื่นองค์กรอิสระตรวจสอบต่อไปในอนาคต

ข่าวล่าสุด

เลิกวนลูป! ส่อง 3 เป้าหมายยอดนิยมที่คนไทยตั้งไว้ทุกต้นปี เป็นจริงได้อย่างไร?