คลินิกฯนับ100แห่งร้องพท.รัฐบาลค้างจ่ายเงินดูแลผู้ป่วยโควิด ขู่ยุติภารกิจ

เมื่อวันที่ 15 กพ. 65 นายวิชาญ มีนชัยนันท์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และประธานภาคกรุงเทพ พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่าได้รับการร้องเรียนจากคลินิกชุมชนอบอุ่นและคลินิกเอกชนร่วม 100 แห่ง ได้รับความเดือดร้อนเพราะรัฐบาลค้างจ่ายเงินสนับสนุนการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ตั้งแต่กลางปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน ทั้งที่คลินิกชุมชนอบอุ่นช่วยเป็นมือไม้ดูแลผู้ป่วยโควิดให้นับแสนคน แต่กลับไม่ติดตามการเบิกจ่ายเงิน

นายวิชาญ กล่าวว่าจากกรณีที่พรรคเพื่อไทยเสนอให้รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข ใช้คลินิกชุมชน 197 แห่ง แบ่งเบาภาระโรงพยาบาลด้วยการจัดทำมาตรการกักตัวเองที่บ้านหรือ Home isolation และ การกักตัวในระบบชุมชนหรือ Community Isolation โดยใช้คลินิกชุมชนอบอุ่นหรือคลินิกบัตรทอง 30 บาทรักษาทุกโรค เป็นมือไม้เข้าไปดูแลพี่น้องประชาชนในชุมชน กรุงเทพมหานคร ภายใต้การดูแลของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม 2564 จากนั้นในช่วงกลางเดือนสิงหาคม 2564 ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) จึงได้จัดระบบการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ที่บ้านหรือ Home Isolation การกักตัวในระบบชุมชนหรือ Community Isolation ตามคำแนะนำของพรรคเพื่อไทย โดยรัฐบาลเชิญชวนคลินิกชุมชนอบอุ่น คลินิกเอกชน ภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพที่มีมากกว่า 3 พันแห่งเข้าร่วมเป็นคู่สัญญากับ สปสช. โดยการดูแลผู้ป่วยโควิดผู้ถือสิทธิบัตรทอง สิทธิบัตรประกันสังคม และสิทธิบัตรข้าราชการ รวมถึงการตรวจ ATK และให้สำนักงานประกันสุขภาพเป็นผู้รวบรวมและเบิกจ่าย

นายวิชาญ กล่าวต่อว่าจากกรกฎาคม 2564 ถึง กุมภาพันธ์ 2565 ผ่านไปแล้ว 7 เดือน มีตัวแทนของคลินิกชุมชนอบอุ่น คลินิกเอกชนร่วม 100 แห่งเริ่มร้องเรียนว่ารัฐบาลยังไม่ได้จ่ายเงินสนับสนุนดูแลผู้ป่วยตามที่สัญญาไว้ ส่งผลให้คลินิกชุมชนอบอุ่น คลินิกเอกชน ที่ต้องสำรองเงินจ่ายค่าอาหาร ยาเวชภัณฑ์ อุปกรณ์การแพทย์ของผู้ป่วยโควิด ค่าหมอพยายาลเจ้าหน้าที่ตลอดจนค่าเช่าอาคารน้ำไฟ จนคลินิกแทบจะอยู่ไม่ได้ ทั้งที่คลินิกเหล่านี้ ได้ร่วมมือกับรัฐบาล กระทรวงสาธารณสุข และสปสช. อย่างเต็มที่ในการดูแลผู้ป่วยโควิดระดับสีเขียวและสีเหลืองในช่วงโควิดระบาดในช่วงปีผ่านมา โดยคลินิกชุมชนอบอุ่นและคลินิกเอกชน เคยสอบถามเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข โดยผู้เกี่ยวข้องให้ข้อมูลว่า เงินในโครงการนี้เป็นเงินที่มาจากเงินกู้ โดยขณะนี้ทางรัฐบาล ก็ยังไม่ได้นำ พ.ร.บ.เงินกู้ เข้าสู่สภา จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ไม่มีเงินมาจ่าย

“วันนี้ รัฐบาลจะถังแตกหรือไม่กล้ากู้เงินคือปัญหาของรัฐบาล แต่หน้าที่รัฐบาลที่มีต่อประชาชน คือดูแลสวัสดิการความปลอดภัย ไม่ถามว่าเงินกู้ล้านล้านบาทหายไปไหน แต่ก็ไม่ใช่หน้าที่ของคลินิกชุมชนอบอุ่น หรือคลินิกเอกชนที่เข้ามาช่วยเหลือภาครัฐแล้วต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายมหาศาลเพราะคลินิกไม่มีเงินมาสำรองจ่ายจำนวนมากให้ภาครัฐได้ต่อไป ขณะนี้ไม่ใช่เงินผู้ป่วยโควิดเท่านั้นแม้แต่เงินดูแลผู้ป่วยปกติ (OP) ในคลินิกก็ยังไม่ได้รับเช่นเดียวกัน หากรัฐไม่แก้ไขปัญหานี้ อีกไม่นานคลินิกชุมชนอบอุ่นอาจจำเป็นต้องยุติภารกิจดูแลผู้ป่วยโควิดและผู้ป่วยในที่สุด” นายวิชาญ กล่าว