"ประภัตร"เสียงแข็งพรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้มีปัญหากัน

เมื่อวันที่ 13 ก.พ.นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา เปิดเผยถึงเสถียรภาพพรรคร่วมรัฐบาลหลังเกิดสภาล่มบ่อยครั้งว่า เรื่องสภาล่ม เรื่องนับประชุม เป็นเรื่องบังเอิญมากกว่า ไม่มีใครอยากให้สภาล่ม แต่ฝ่ายค้านอาจจะอยากประลองกำลังมากกว่า ปกติในการประชุมพิจารณากระทู้ถาม ไม่เคยมีการนับองค์ประชุม ส.ส.ส่วนใหญ่ที่อยู่ต่างจังหวัดจึงซื้อตั๋วเครื่องบินกลับบ้าน เพราะคิดว่าไม่มีอะไร ฉะนั้นการที่เสียงส.ส.ขาดไป 10 คน ไม่ได้มีเจตนาจะขาด ถ้ามีเจตนาจะเบี้ยวจะขาดมากกว่านี้

ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าพรรคร่วมรัฐบาลไม่มีปัญหากัน ไม่มีใครอยากจะให้ยุบสภา ตนกล้าท้าได้ในฐานะเป็นผู้อาวุโสทางการเมือง เพราะการเลือกตั้งแต่ละครั้งมันยากและลำบาก การแก้ไขปัญหาช่วงนี้ยิ่งจะต้องช่วยกันแก้ปัญหา ดังนั้น ถ้าคิดว่าจะมีการยุบสภา ไม่มีใครได้ประโยชน์เลย ชาวบ้านลำบากไปอีกอย่างน้อย 1 ปี กว่าจะมีการเลือกตั้ง กว่าจะมีรัฐบาล ทุกอย่างจะนิ่งหมด ปัญหาต่างๆ ทั้งราคาพืชผลการเกษตร ราคาข้าวของแพง โดยเฉำพาะเรื่องของแพงตนยอมรับว่ามันแพงตามกระแส แต่ขณะเดียวกันต้องยอมรับว่า นายกรัฐมนตรรีและรัฐบาลมีความตั้งใจจริงที่จะพยายามทำทุกวิถีทาง โดยเฉพาะเรื่องที่ทุกคนบอกว่าดี นายกฯก็รับฟัง ยินดีปรับปรุงแก้ไขให้

นายประภัตร ยังกล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจโดยไม่ลงมติตามมาตรา 152 ในวันที่ 17-18 ก.พ.ว่า เป็นธรรมดาที่ฝ่ายค้านจำเป็นจะต้องรุกไล่ หาจุดอ่อนของรัฐบาล เพื่อจะผสมผสานกับเรื่องที่ทำให้เกิดการเลือกตั้ง แต่ตนเชื่อว่าข้อมูลที่ฝ่ายค้านจะพูด นายกฯและรัฐมนตรีทุกคนเต็มใจที่จะตอบ เป็นโอกาสเดียวที่จะชี้แจงให้ประชาชนได้ทราบอย่างทั่วถึง ไม่ใช่เรื่องเสียหาย อย่างกรณีเรื่องที่ตนจะถูกอภิปรายเรื่องโรคลัมปีสกิน ที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดการจ่ายเงินเยียวยาจึงล่าช้า ก็จะได้ชี้แจงให้เห็นว่า ขั้นตอนเป็นอย่างไร ติดขัดอย่างไร ดำเนินการแก้ไขไปอย่างไรแล้วบ้าง เนื่องจากขณะนี้เกิดปัญหาว่า มีบางจังหวัดได้ก่อน มีบางจังหวัดยังไม่ได้ ส.ส.ก็เป็นห่วง อยากให้ชาวบ้านได้รับการเยียวยา

นายประภัตร กล่าวยืนยันว่า กรมปศุสัตว์และตนได้คอยติดตามให้อยู่ตลอด แต่ด้วยขั้นตอนที่มีมาก จากชาวบ้านมายังกรมปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์ไปยังกระทรวงการคลัง จากนั้นไปที่สำนักงบประมาณ กว่าจะกลับมาที่กระทรวงการเกษตรและสหกรณ์ กินเวลาหลายเดือน ตนคิดเสมอว่าจะทำอย่างไรให้ชาวบ้านได้บ้าง นายกฯเองก็ได้มีการผลักดันให้กระทรวงเกษตรฯ กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)ให้เงินสานฝันสร้างอาชีพมา 3 หมื่นกว่าล้านบาท เพื่อที่จะให้เกษตรกรกู้ยืม โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์มาค้ำ ใช้เพียงผู้ค้ำประกัน 2คน ก็ได้รายละ 1 แสนบาท เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ในช่วง 60-90 วัน เพราะตอนนี้เกษตรกรลำบากที่สุด

ผู้สื่อข่าวถามถึงความเคลื่อนไหวของพรรคเศรษฐกิจจะส่งผลกระทบต่อรัฐบาลหรือไม่ นายประภัตร กล่าวว่า เท่าที่ได้สัมผัสกับพรรคเศรษฐกิจไทย เขาบอกว่ายังยินดีสนับสนุนรัฐบาลอยู่ ไม่เห็นมีอะไร อย่างการนับองค์ประชุมคราวก่อนเขาก็สนับสนุนรัฐบาล เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าพรรรเศรษฐกิจไทยจะต่อรองขอเก้าอี้รัฐมนตรีของพรรคชาติไทยพัฒนา นายประภัตร กล่าวว่า ขณะนี้เราไม่รู้ว่าเขาคิดอย่างไรกับเรา แต่เรื่องการปรับครม.อยู่ที่นายกฯ และต้องย้อนกลับไปด้วยว่า เราไม่ได้มาแบบเขาให้มา เพราะตอนตั้งรัฐบาลเสียงมีไม่พอ ตอนนั้นพรรคชาติไทยพัฒนามีส.ส. 10 กว่าคน นายกฯเลยให้กำลังใจมา อีกทั้งเราทำงานไม่แพ้พรรคอื่น รัฐมนตรี 2 คนทำงานไม่หยุดเลย

เมื่อถามย้ำว่า หากเขาจะมาขอโควต้าคืน จะทำอย่างไร นายประภัตร กล่าวว่า ก็ต้องมาคุยกัน แต่ตอนนี้คิดว่าทุกคนรู้แล้วว่าสถานการณ์ที่จะต้องช่วยกัน เรื่องที่จะมาขัดกัน ไม่มีใครอยากทำ บอกตรงๆ เพราะอยู่กันปีที่ 3 แล้ว ถ้ามันแตก มันต้องไปนานแล้ว