พท.ออกแถลงการณ์เลือก"สุรชาติ"จุดประกายแสงสว่างการเมืองไทย

เมื่อวันที่ 25 ม.ค.2565 พรรคเพื่อไทย ออกแถลงการณ์ ระบุว่า ?การเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร เขตเลือกตั้งที่ 9 ในวันอาทิตย์ที่ 30 ม.ค. จะเป็นหมุดหมายสำคัญ ในการจุดประกายแสงสว่างของการปรับเปลี่ยนการเมืองไทยสู่แนวทางที่ถูกต้องชอบธรรม เป็นประชาธิปไตยตามความต้องการของพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง

?พรรคเพื่อไทยขอกราบเรียนเชิญพี่น้องประชาชน ช่วยส่งเสริมสนับสนุนเลือกคุณสุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย หมายเลข 3 เพื่อร่วมมือร่วมใจกันเปลี่ยนแปลงการเมืองไทย เพื่ออนาคตของประเทศไทย

ขณะที่ นายสุรชาติ กล่าวในระหว่างลงพื้นที่พบปะประชาชนบริเวณหมู่บ้านมหานคร ว่า ในการลงพื้นที่ 20 กว่าวันก่อนการเลือกตั้งซ่อมในวันที่ 30 ม.ค.ถือว่าเป็นเวลาที่จำกัด แม้ในสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 แต่เชื่อมั่นว่าประชาชนทยอยมาใช้สิทธิ์ตลอดทั้งวัน ส่วนในการปราศรัยใหญ่ในวันที่ 28 ม.ค. จะมีการนำเสนอนโยบายของพรรคหลายด้านที่จะเป็นการกำหนดทิศทางของประเทศ เพื่อตอกย้ำให้พี่น้องประชาชนได้เห็นว่าแม้พรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้าน แต่เราทำหน้าที่ตรวจสอบและนำเสนอทางออกของประเทศให้พี่น้องประชาชน เพื่อให้เห็นว่าพรรคเพื่อไทยยังเป็นความหวังเสมอ

นอกจากนี้มีรายงานด้วยว่า พบการทุจริตในพื้นที่ในเขตชุมชนแล้ว แต่ส่วนตัวมั่นใจว่าประชาชนจะรักษาศักดิ์ศรีของตนเอง โดยในวันลงคะแนนเลือกตั้งจะมีตัวแทนของพรรค และอาสาสมัครภาคประชาชนช่วยจับตาการเลือกตั้ง อยากฝากประชาชนร่วมกันจับตาจำนวนผู้มาใช้สิทธิว่าแต่ละหน่วยเลือกตั้งของเขตหลักสี่ จตุจักรมีจำนวนบัตรลงคะแนนของผู้มาใช้สิทธิ์ในหีบ มีจำนวนตรงกันกับจำนวนประชากรในแต่ละหน่วยหรือไม่ เนื่องจากในการเลือกตั้งในปี 2562 จำนวนบัตรเลือกตั้งในหีบมากกว่าเขตอื่นโดยเฉลี่ยของกรุงเทพถึง 5-6% ขณะที่จำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งแต่ละหน่วยในเขตหลักสี่ จตุจักร เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 800-1,000 คน

สำหรับกรณีที่มีผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคหนึ่งไม่สามารถเข้าพื้นที่ในชุมชนเพื่อหาเสียงหรือพบปะกับประชาชนได้นั้น นายสุรชาติ มองว่า การลงพื้นที่หาเสียงในเขตที่มีการเลือกตั้งไม่ควรถูกปิดกั้น ควรเป็นสิทธิเสรีภาพในการหาเสียงตามระบอบประชาธิปไตย ผู้สมัครทุกคนควรได้เข้าถึงพื้นที่ตราบใดที่ไม่เป็นการรบกวนพี่น้องประชาชน ส่วนตนเองนั้นสามารถลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนได้ทุกจุด โดยเฉพาะในเขตหลักสี่ตนเองสามารถลงพื้นที่ได้ทุกตารางนิ้ว เนื่องจากมีต้นทุนในการใกล้ชิดกับประชาชนในพื้นที่มาโดยตลอดแม้จะเป็น ส.ส.หรือไม่ เป็นการพบปะแบบเป็นมิตรจนมีความคุ้นเคยกับพี่น้องประชาชนเป็นอย่างดี