posttoday

นายกฯห่วงกลุ่มเสี่ยง-ผู้สูงวัยป่วยโควิด ย้ำให้เข้ารับวัคซีน

17 มกราคม 2565

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย "นายกฯ" ห่วงผู้สูงวัย ผู้ป่วยติดเตียง กลุ่มเสี่ยงป่วยโควิด ย้ำวัคซีนทุกสูตรพบมีประสิทธิผลป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิต

เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 65 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมยังฝากความห่วงใยไปถึงครอบครัวที่มีคนอยู่ร่วมกันหลายวัย ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง ขอให้เพิ่มความระวังสูงสุด แยกส่วนที่ใช้พื้นที่ร่วมกัน ลดการติดเชื้อในครอบครัว เพราะเมื่อมีบุคคลที่เป็นความเสี่ยง สูงอายุ ติดเตียง อาจป่วยและเสียชีวิตได้ 

นายกฯได้แสดงความเสียใจกับญาติและครอบครัวผู้เสียชีวิตกรณีพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน  เป็นหญิงไทยสูงวัยอายุ 86 ปี  ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียงและอัลไซเมอร์ เสียชีวิตด้วยโควิดสายพันธุ์โอมิครอน เป็นรายแรกของจังหวัดสงขลา  โดยขอยืนยันว่า วัคซีนทุกสูตรพบมีประสิทธิผลป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิตจากแต่ละสายพันธุ์สูง  แต่เนื่องจากประสิทธิผลของวัคซีนในส่วนการป้องกันการติดเชื้อมีสูง จะลดลงเมื่อเวลาผ่านไป  

สำหรับจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในช่วงเช้าของวันจันทร์ที่ 17 มกราคม 2565 รวม 6,929 ราย จำแนกเป็นผู้ป่วยจากในประเทศ 6,720 รายผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 209 รายผู้ป่วยสะสม 107,979 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)หายป่วยกลับบ้าน 5,255 รายหายป่วยสะสม 58,772 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)ผู้ป่วยกำลังรักษา 82,210 รายเสียชีวิต 13 ราย

ส่วนการให้บริการวัคซีน COVID-19 วันที่ 16 มกราคม 2565 เวลา 20.50 น. ประเทศไทยฉีดวัคซีนสะสมแล้ว 110,160,088 โดส แบ่งเป็นเข็มที่ 1 ฉีดสะสม 51,786,685 โดส เข็มที่ 2 ฉีดสะสม 47,578,583 โดส เข็มที่ 3 ฉีดสะสม 10,172,653 โดส เข็มที่ 4 ฉีดสะสม 622,167 โดส

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ให้การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเป็นนโยบายที่สำคัญ ที่จะช่วยควบคุมการระบาดของโรค และช่วยปกป้องให้ผู้คนปลอดภัยจากโรคนี้ได้ด้วย นายกรัฐมนตรีจึงอยากเชิญชวนให้กลุ่มเปราะบาง ที่เป็นผู้สูงอายุและป่วยเรื้อรัง ที่รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วนั้นให้ไปรับวัคซีนเข็มกระตุ้น หรือเข็มที่ 3 เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันด้วย