posttoday

เปิดผลโพลดูของขวัญปีใหม่ที่ประชาชนอยากได้จากรัฐบาล

12 ธันวาคม 2564

ซูเปอร์โพลเผยของขวัญปีใหม่ที่ประชาชนอยากได้จากรัฐบาล ให้หยุดการทุจริตคอร์รัปชันในวงราชการ ช่วยคนตกงาน สร้างงาน สร้างรายได้ พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ด้อยโอกาส

เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 64 นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล เปิดเผยผลสำรวจ เรื่อง ของขวัญปีใหม่ 2565 ที่ประชาชนต้องการ กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 1,154 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 5 – 11 ธ.ค.64 ที่ผ่านมา สรุปผลได้ดังนี้

เมื่อถามถึง ของขวัญปีใหม่ 2565 ที่ประชาชนต้องการจากรัฐบาล ทั้งในด้าน ความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม การเมืองและเทคโนโลยี พบว่า

ของขวัญปีใหม่ 2565 ด้านความมั่นคง

หยุดการทุจริต คอร์รัปชันในวงราชการ ลงโทษหนัก และปลดข้าราชการออก ร้อยละ 74.0

ฝ่ายปกครอง กระทรวงมหาดไทย ตื่นตัว เข้าดูแลทุกข์สุขของประชาชนให้ใกล้ชิด และมากกว่าที่เป็นอยู่ รับฟังและใส่ใจในบริการประชาชนมากขึ้น ใช้งบประมาณโปร่งใส ร้อยละ 72.9

ปฏิรูปตำรวจ ให้กระบวนการยุติธรรมต้นน้ำ เกิดความเสมอภาคเท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติ หมดยุครีดไถ เก็บส่วย และเอื้อประโยชน์กัน และทำให้สังคมมีความปลอดภัยมากขึ้น ร้อยละ 72.1

ต้องการรัฐบาลมีความเฉียบคมและ เฉียบขาดมากขึ้น ไม่ต้องการเห็นระบบรัฐราชการ ร้อยละ 67.6

ปฏิรูปกองทัพให้ทันสมัย ลดกำลังพลและเพิ่มขีดความสามารถทางทหาร มีความเป็นทหารอาชีพ ร้อยละ 66.4

ด้านเศรษฐกิจ

ช่วยคนตกงาน สร้างงาน สร้างรายได้ทุกระดับ พัฒนาอาชีพ ร้อยละ 81.3

ต้องการให้รัฐบาลลดค่าครองชีพที่จำเป็น ไม่เอื้อประโยชน์ผูกขาดทำประชาชนเดือดร้อน ร้อยละ 78.4

ประกันรายได้เกษตรกร ตลาดนำการผลิต ดูแลราคาพืชผลเกษตรให้ยืนได้ด้วยตัวเอง ร้อยละ 78.3 จัดหาแหล่งทุนให้ผู้มีรายได้น้อยเข้าถึงได้ง่าย ปลดล็อคเงื่อนไขการเข้าถึง ร้อยละ 75.8

ช่วยเหลือคนทำธุรกิจออนไลน์ ร้อยละ 75.2

ช่วยพยุงธุรกิจ ขนาดย่อย ขนาดย่อม และขนาดกลางให้เข้มแข็งไปต่อได้ ร้อยละ 74.3

ลดค่าทางด่วน รถไฟฟ้า และรถรับจ้างสาธารณะ ร้อยละ 73.3

ด้านสังคมและวัฒนธรรม

พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ด้อยโอกาส ผู้มีรายได้น้อยให้มีที่อยู่อาศัยมีอาชีพและที่ดินทำกิน ร้อยละ 79.5

เร่งพัฒนาการศึกษาในทุกระดับ โดยเฉพาะช่วยเหลือ เด็กยากจนพิเศษ ให้เห็นเป็นรูปธรรม ร้อยละ 77.4

ลดความขัดแย้ง แตกแยกและการใช้ความรุนแรง ร้อยละ 76.4

ต้องการถนน หนทาง สะดวกสบาย ราบเรียบและ ปลอดภัย ร้อยละ 75.3

ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ไม่เลือกปฏิบัติ ทำให้เกิดความเท่าเทียมในสังคมจริงจัง ร้อยละ 74.5

ด้านการเมือง

ส.ส. และ ส.ว. ทำหน้าที่รับใช้สังคมจริงจังมากกว่าที่เป็นอยู่ ให้คุ้มค่าภาษีของประชาชน ร้อยละ 77.6 พรรคการเมืองเลิกทุจริต หยุดถอนทุนคืน ทำงานยึดประโยชน์ประเทศชาติและประชาชนมากกว่านี้ ร้อยละ 76.7

เลิกเอาประชาชนเป็นเหยื่อหรือเครื่องมือทางการเมืองแสวงหาผลประโยชน์ ปลุกปั่นยุยงสร้างกระแสไม่สร้างสรรค์ ร้อยละ 76.4

ทำงานการเมืองใหม่ ให้สร้างสรรค์ทันสมัยในกรอบและวิถีประชาธิปไตยมากกว่าที่เป็นอยู่ เคารพเสียงส่วนใหญ่ รับฟังเสียงส่วนน้อย ร้อยละ 75.1

นักการเมืองเลิกกัดกัน เลิกทะเลาะกัน เลิกเป็นตัวอย่างไม่ดี ไม่สร้างสรรค์ทั้งในและนอกสภา ร้อยละ 74.7

ด้านเทคโนโลยี

หยุดการผูกขาด ทางการสื่อสารและเทคโนโลยี ร้อยละ 74.7

ซิตี้ ฟรี ไวไฟ (City Free Wifi) ต่อเชื่อมอินเทอร์เน็ตฟรีทุกที่ ทุกตำบล ทุกเมือง ร้อยละ 74.0

รัฐบาลอิเล็คทรอนิกส์ ที่นำเทคโนโลยีมาใช้ในระบบราชการมากขึ้น ประชาชนสามารถเข้าถึงและให้บริการเร็วขึ้น ลดทุจริต คอร์รัปชัน ร้อยละ 73.7

ส่งเสริมสนับสนุนงานวิจัยและพัฒนามากขึ้น โดยเฉพาะเทคโนโลยีด้านการเกษตรมากขึ้น ร้อยละ 73.2

เร่งพัฒนาสร้างประเทศสู่ สมาร์ทคันทรีเป็นประเทศที่ล้ำยุค ทันสมัย โดยเฉพาะใช้เทคโนโลยีส่งเสริมและลดความเหลื่อล้ำทางการศึกษา ร้อยละ 71.7

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า จากผลสำรวจครั้งนี้ อาจมองได้อย่างน้อยสองมิติคือ ตัวเลขที่สูงสุดในแต่ละด้านของการศึกษาและนัยสำคัญของตัวเลขภายในด้านต่าง ๆ โดยพบว่า ตัวเลขที่สูงที่สุดของแต่ละด้าน ได้แก่ ด้านความมั่นคง ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการหยุดทุจริต คอร์รัปชั่นในวงราชการ ลงโทษหนักและปลดข้าราชการออก มากที่สุด

ด้านเศรษฐกิจ ประชาชนส่วนใหญ่ ต้องการให้รัฐบาลช่วยคนตกงาน สร้างงาน สร้างรายได้เสริมในทุกระดับ พัฒนาอาชีพ มากที่สุด ด้านสังคม ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ด้อยโอกาส ผู้มีรายได้น้อยให้มีที่อยู่อาศัย มีอาชีพและที่ดินทำกิน

ในขณะที่ ด้านการเมือง ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการ ให้ ส.ส. และ ส.ว. ทำหน้าที่รับใช้สังคมจริงจังมากกว่าที่เป็นอยู่ ให้คุ้มค่าภาษีของประชาชน พรรคการเมืองเลิกทุจริต หยุดถอนทุนคืน

ด้าน เทคโนโลยี ที่พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ที่สุดต้องการให้รัฐบาล หยุดการผูกขาด ทางการสื่อสารและเทคโนโลยี ใช้เทคโนโลยีลดความเหลื่อมล้ำในสังคม

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวต่อว่า นัยสำคัญของตัวเลขภายในด้านต่าง ๆ ที่ศึกษาครั้งนี้ พบว่า ด้านความมั่นคง ที่ฝ่ายปกครองกระทรวงมหาดไทยต้องตื่นตัวเข้าดูแลทุกข์สุขของประชาชนให้ใกล้ชิด และมากกว่าที่เป็นอยู่ ฟังและใส่ใจในบริการ ประชาชน มากขึ้น ใช้งบประมาณโปร่งใส และการปฏิรูปตำรวจให้เกิดกระบวนการยุติธรรมต้นน้ำ หยุดรีดไถ เก็บส่วย ทำให้สังคมมีความปลอดภัยแท้จริง ขณะเดียวกัน ต้องการเห็นการปฏิรูปกองทัพที่เข้มแข็ง

ส่วนด้านเศรษฐกิจนั้น ต้องการให้รัฐบาลลดค่าครองชีพที่จำเป็น ห้ามการผูกขาด ทำประชาชนเดือดร้อนหมดทางเลือก และต้องการการประกันรายได้เกษตรกร ตลาดนำการผลิต ดูแลราคาพืชผลเกษตรให้ยืนได้ด้วยตนเอง

ส่วนด้านสังคม ผลการศึกษาพบตัวเลขที่รัฐบาล ต้องเร่งพัฒนาการศึกษาในทุกระดับ นำเทคโนโลยีมาเสริมและช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา โดยเฉพาะการช่วยเหลือเด็กยากจนพิเศษ ที่ฝาบ้านไม่ครบสี่ด้าน พ่อแม่ตกงานรายได้ไม่เพียงพอให้เห็นเป็นรูปธรรม และต้องการเห็นความขัดแย้งแตกแยกในหมู่ประชาชนลดลง และหยุดการผูกขาดทางการสื่อสารและเทคโนโลยี

และที่สำคัญ รัฐบาลควรเป็นผู้นำอย่างแข็งขันและจริงจังในการปราบปรามและต่อต้านการทุจริต ทั้งระดับนโยบายและการปฏิบัติ ซึ่งประชาชนพร้อมสนับสนุน เพื่อให้เกิดบรรทัดฐานทางสังคมใหม่ เป็นของขวัญปีใหม่ 2565 ให้แก่ประชาชนส่วนใหญ่ทั้งประเทศ