posttoday

"ประวิตร"ดึง"บิ๊กโจ๊ก"ร่วมทีมปราบค้ามนุษย์

22 พฤศจิกายน 2564

"พล.อ.ประวิตร" ตั้ง "พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล"เป็นประธานคณะทำงานประสานและติดตามงานด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์

เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 64 พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์จำนวน 2 คณะต่อเนื่องกัน ทั้งด้านการป้องกันและปราบปราม รวมทั้งด้านการป้องกันเจ้าหน้าที่รัฐมิให้เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ณ ห้องวิจิตรวาทการ สมช. ในทำเนียบรัฐบาล

โดยสรุปสาระสำคัญภาพรวม ความคืบหน้าผลประชุมร่วมกันกับฝ่ายสหรัฐโดย สำนักงานตรวจสอบและต่อต้านการค้ามนุษย์(J/TIP) มีความเห็นว่า ไทยควรมีการปรับปรุงด้านแรงงานบังคับให้ผู้ตรวจแรงงาน มีความรู้ความเข้าใจการดำเนินคดีและส่งต่อคดีให้ตำรวจมากขึ้น เร่งปรับปรุงระบบคัดแยกผู้เสียหาย และความคืบหน้าการจัดทำรายงานการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ปี 64 (เม.ย-ก.ย.64) และผลกระทบจากโควิด-19

นอกจากนี้ได้รับทราบ ผลการประเมินในรายงานสถานการณ์และการขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบเลวร้ายที่สุดปี 2020 ในภาพรวม ซึ่งประเทศไทยอยู่ในระดับปานกลาง ยังมีการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็กทางอินเตอร์เน็ต และพบเด็กไทยยังถูกใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้ายและการแสวงหาประโยชน์ทางเพศเชิงพาณิชย์ รวมทั้งยังไม่สามารถบรรลุมาตรฐานระหว่างประเทศด้านอายุขั้นต่ำของการจ้างแรงงาน

พร้อมกันนี้ได้รับทราบ ผลจากการที่คณะผู้แทนรัฐสภาสหรัฐ ได้เข้าเยี่ยมชม สถานคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ จ.ปทุมธานี มีท่าทีพึงพอใจ และสนใจผลการปราบปรามสื่อลามกอนาจารเด็กและการค้ามนุษย์ที่เชื่อมโยงบนสื่อออนไลน์ พร้อมชื่นชมต่อความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนนโยบายของไทยในช่วง 6 ปี ที่ผ่านมา

ที่ประชุมยังได้เห็นชอบ (ร่าง) พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 เพื่อนำทรัพย์สินที่อายัดในความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์เข้ากองทุนป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และเห็นชอบให้จัดตั้ง “ศูนย์คัดแยกผู้เสียหาย” ( ดอนเมือง ) เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้เห็นชอบโครงการพัฒนาศักยภาพของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน

รวมทั้งแต่งตั้ง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผบ.ตร.เป็นประธานคณะทำงานประสานและติดตามงานด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์

จากนั้น มีการประชุมต่อเนื่อง โดยได้พิจารณา กรณี ร้าน เดอะเบสท์ พื้นที่สอบสวน สน.บางซื่อ ที่มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับการนำพาบุคคลเข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิได้รับอนุญาต ซึ่งอาจตกเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ที่ประชุมเห็นชอบมอบหมายให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ รับเป็นคดีพิเศษ โดยให้นำเทคโนโลยีและเครื่องมือพิเศษเข้ามาสอบสวนและให้แจ้ง ปปช.ดำเนินตามอำนาจหน้าที่ และให้ สตช.ดำเนินการทางวินัยเต็มอำนาจ

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า นโยบายรัฐบาล ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์มาอย่างต่อเนื่อง ทุกหน่วยงานต้องพยายามทำงานหนักร่วมกันมากขึ้น ด้วยการเปิดรับความจริงอย่างรอบด้าน ขอให้ยึดผู้เสียหายเป็นศูนย์กลางและต้องคำนึงถึงบาดแผลทางจิตใจของผู้เสียหายเป็นสำคัญ ซึ่งถือเป็นเรื่องจำเป็นที่ทุกหน่วยงาน ต้องทำงานเป็นหนึ่งเดียวกัน เพิ่มเร่งตรวจสอบเข้าไปช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ให้ทั่วถึง โดยเฉพาะการบังคับใช้แรงงานและการแสวงประโยชน์ทางเพศจากแรงงานเด็กร่วมกันอย่างมีแผนงาน

พร้อมทั้งให้เร่งหารือร่วมกันกำหนดให้มีการคุ้มครองด้านอายุขั้นต่ำของการจ้างแรงงานปรับปรุงระบบคัดแยกผู้เสียหายให้ผู้เสียหายเข้าถึงบริการของรัฐและได้รับการฟื้นฟูโดยเร็วและทั่วถึง

ขณะเดียวกัน ต้องรับฟังข้อมูลและทำงานร่วมกับ NGOs และองค์กรระหว่างประเทศมากขึ้น ทั้งนี้ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาดและจริงจังต่อผู้กระทำผิดทุกคนไม่มียกเว้น โดยเฉพาะการเอาผิดกับเจ้าหน้าที่รัฐที่พัวพันสถานหนัก พร้อมย้ำว่า สถิติการจับกุมและลงโทษเพิ่มมากขึ้น แสดงถึงความพยายามและประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน มิดังนั้นคดีต่างๆ ต้องถูกขับเคลื่อนเดินหน้าไปอย่างจริงจังและต้องมีความคืบหน้าเป็นรูปธรรม เพื่อให้การแก้ปัญหาการค้ามนุษย์หมดไปและเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ