posttoday

"ราเมศ"อธิบายข้อกม. ทำไม "ปิยบุตร"เข้าแจงร่างแก้ไขรธน.ต่อสภาได้

17 พฤศจิกายน 2564

โฆษกกรรคประชาธิปัตย์ อธิบายข้อกฎหมายให้คำตอบ ทำไม "ปิยบุตร" จึงเข้าชี้แจงร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อรัฐสภาได้

เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 64 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ให้ความเห็นเกี่ยวกับข้อกฎหมายที่เป็นคำตอบว่า เหตุใด นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า สามารถเข้าชี้แจงร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อรัฐสภาได้ โดยมีเนื้อหาดังนี้

“โพสต์นี้” มี “คำตอบ”ทำไม“นายปิยบุตร แสงกนกกุล”จึง สามารถเข้าชี้แจงร่างแก้ไข รธน ต่อรัฐสภาได้?

สรุปความเห็นทางกฎหมาย

นายปิยบุตร แสงกนกกุล ถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งมิใช่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๙๖ บัญญัติไว้ ดังนั้น นายปิยบุตร แสงกนกกุล จึงยังเป็นบุคคลผู้มีสิทธิเลือกตั้งในการเข้าชื่อเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๒๕๖ (๑) ประกอบกับพระราชบัญญัติการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย พ.ศ. ๒๕๖๔ มาตรา ๕ ได้ และเมื่อนายปิยบุตร แสงกนกกุล เป็นผู้แทนของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง

ที่เข้าชื่อเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม จึงสามารถเข้าชี้แจงร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมต่อที่ประชุมรัฐสภาได้ตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ. ๒๕๖๓ ข้อ ๑๑๖ วรรคสอง

ความเห็นฉบับเต็ม

ข้อเท็จจริงเรื่องนี้ยุติว่า

เมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยที่ ๕/๒๕๖๓ ระหว่าง คณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ร้อง และพรรคอนาคตใหม่ ผู้ถูกร้อง โดยศาลรัฐธรรมนูญได้สั่งให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ ผู้ถูกร้อง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๙๒

วรรคหนึ่ง (๓) และวรรคสอง ประกอบมาตรา ๗๒ เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคของผู้ถูกร้องที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในวันที่ ๒ มกราคม ๒๕๖๒ หรือวันที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๖๒ ซึ่งเป็นวันที่มี

การกระทำอันเป็นเหตุให้ยุบพรรคผู้ถูกร้องตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๙๒ วรรคสอง มีกำหนดเวลาสิบปีนับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคผู้ถูกร้อง และห้ามมิให้ผู้ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารของพรรคผู้ถูกร้องดังกล่าวไปจดทะเบียนพรรคการเมืองขึ้นใหม่หรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองหรือมีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่อีก ภายในกำหนดสิบปีนับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ยุบพรรคผู้ถูกร้องตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๙๔ วรรคสอง

จากคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าว นายปิยบุตร แสงกนกกุล ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่จึงถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามคำวินิจฉัยศาลดังกล่าว

จากข้อเท็จจริงดังกล่าว สามารถสรุปประเด็นข้อกฎหมาย ดังนี้

กรณีของนายปิยบุตร แสงกนกกุล ถูกตัดสิทธิสมัครรับเลือกตั้งสามารถชี้แจงเสนอร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช .... (นายพริษฐ์ วัชรสินธุ กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน ๑๓๕,๒๔๗ คน เป็นผู้เสนอ) ต่อที่ประชุมรัฐสภา ได้หรือไม่

ข้อกฎหมาย

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๙๖ บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้ในวันเลือกตั้ง เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้ง

(๑) เป็นภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวช

(๒) อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไม่ว่าคดีนั้นจะถึงที่สุดแล้วหรือไม่

(๓) ต้องคุมขังอยู่โดยหมายของศาลหรือโดยคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย

(๔) วิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ

มาตรา ๒๕๖ ภายใต้บังคับมาตรา ๒๕๕ การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ให้กระทำได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ดังต่อไปนี้

(๑) ญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมต้องมาจากคณะรัฐมนตรี หรือจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร หรือจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา หรือจากประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนไม่น้อยกว่าห้าหมื่นคนตามกฎหมายว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย

พระราชบัญญัติการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย พ.ศ. ๒๕๖๔มาตรา ๕ ผู้มีสิทธิในการเข้าชื่อเสนอกฎหมายต่อรัฐสภาต้องเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งอยู่ในวันที่เสนอร่างพระราชบัญญัติตามมาตรา ๑๑ หรือร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมตามมาตรา ๑๖ แล้วแต่กรณี และมิได้เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้ง

การเข้าชื่อเสนอร่างพระราชบัญญัติต้องมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งหมื่นคน

การเข้าชื่อเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมต้องมีผู้สิทธิเลือกตั้งจำนวนไม่น้อยกว่าห้าหมื่นคน

ข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ. ๒๕๖๓ ข้อ ๑๑๖ ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมที่ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้าชื่อเสนอให้เลขาธิการรัฐสภาจัดทำรายงานผลการดำเนินการร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมนั้นเพื่อให้รัฐสภาทราบด้วย

ในการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้แทนของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เข้าชื่อเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมนั้น เป็นผู้เสนอและชี้แจงร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมต่อที่ประชุมรัฐสภา

ข้อพิจารณา

เมื่อข้อเท็จจริงตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ ๕/๒๕๖๓ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ได้ถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลาสิบปีอันมิใช่เป็นการถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง

กรณีนี้จึงยังถือว่า นายปิยบุตร แสงกนกกุล เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ซึ่งไม่เข้าเงื่อนไขเป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้งตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๙๖ ได้บัญญัติไว้ นายปิยบุตร แสงกนกกุล จึงเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่สามารถเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖ (๑) ประกอบกับพระราชบัญญัติการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย พ.ศ. ๒๕๖๔ มาตรา ๕ และกรณีที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล สามารถเข้าชี้แจงร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมต่อที่ประชุมรัฐสภาในวาระที่หนึ่งได้

เนื่องจากข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ. ๒๕๖๓ ข้อ ๑๑๖ วรรคสอง กำหนดว่า “ในการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้แทนของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เข้าชื่อเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมนั้น เป็นผู้เสนอและชี้แจงร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมต่อที่ประชุมรัฐสภา”

ดังนั้น นายปิยบุตร แสงกนกกุล ซึ่งเป็นผู้แทนของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เข้าชื่อเสนอ ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม จึงสามารถเข้าชี้แจงร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมต่อที่ประชุมรัฐสภาได้

ตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ. ๒๕๖๓ ข้อ ๑๑๖ วรรคสอง

สรุปความเห็นทางกฎหมาย

นายปิยบุตร แสงกนกกุล ถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งมิใช่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๙๖ บัญญัติไว้ ดังนั้น นายปิยบุตร แสงกนกกุล จึงยังเป็นบุคคลผู้มีสิทธิเลือกตั้งในการเข้าชื่อเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมตามรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๒๕๖ (๑) ประกอบกับพระราชบัญญัติการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย พ.ศ. ๒๕๖๔ ข้อ ๕ ได้

และเมื่อนายปิยบุตร แสงกนกกุล เป็นผู้แทนของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เข้าชื่อเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม จึงสามารถเข้าชี้แจงร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมต่อที่ประชุมรัฐสภาได้ตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ. ๒๕๖๓ ข้อ ๑๑๖ วรรคสองทุกกระบวนการเป็นไป ตามรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และข้อบังคับทุกประการ