posttoday

ศาลฎีกาสั่ง "ปารีณา" หยุดปฏิบัติหน้าที่กมธ.คดีฝ่าฝืนจริยธรรม

09 พฤศจิกายน 2564

ศาลฎีกา สอบคำให้การ "ปารีณา" ส.ส.ราชบุรี พปชร. คดีฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง สั่งหยุดทำหน้าที่ กมธ.งบประมาณ นัดพิพากษา 7 เม.ย. 65

เมื่อวันที่ 9 พ.ย.65 ศาลฎีกา สนามหลวง นัดพิจารณาคดีครั้งแรก และตรวจพยานหลักฐาน คดีหมายเลขดำ คมจ.1/2564 ที่ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ผู้ร้อง ยื่นฟ้อง น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรค พปชร. ผู้คัดค้าน ในข้อกล่าวหากระทำการฝ่าฝืนหรือไม่ ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง

โดยนัดพิจารณาครั้งแรกและตรวจพยานหลักฐาน วันนี้ ผู้ร้อง ผู้คัดค้านและทนายผู้คัดค้านมาศาล

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยว่า ผู้คัดค้านสามารถได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ในขณะที่ศาลฎีกามีคำสั่งให้ผู้คัดค้านหยุดปฏิบัติหน้าที่ได้หรือไม่ ตามคำร้องฉบับลงวันที่ 29 มิถุนายน 2564 ผู้คัดค้าน ยื่นคำแถลงฉบับลงวันที่ 19 กรกฎาคม 2564 ว่า การเป็นกรรมาธิการมิใช่การปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจึงไม่ได้เป็นการฝ่าฝืนคำสั่งศาล

องค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาเสียงข้างมาก เห็นว่า การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 เป็นหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎร การเป็นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่อย่างหนึ่งของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

ดังนั้นเมื่อผู้คัดค้านยังเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แต่อยู่ในระหว่างการถูกศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 235 วรรคสาม ผู้คัดค้านจึงไม่อาจปฏิบัติหน้าที่การเป็นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ดังกล่าวได้ ผู้คัดค้าน ยื่นคำร้องขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยในปัญหาว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. อาศัยอำนาจตาม มาตรา 28(1) ไต่สวนคดีนี้โดยไม่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการจริยธรรมของสภาผู้แทนราษฎรเป็นมติที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและกฎหมาย คณะกรรมการ ป.ป.ช.จึงไม่อาจยื่นคำร้องได้ และขอให้เพิกถอนคำสั่งให้ผู้คัดค้านหยุดปฏิบัติหน้าที่

ศาลเห็นว่า ข้ออ้างตามคำร้องมิใช่กรณีบทบัญญัติแห่งกฎหมายขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ จึงไม่ต้องด้วยบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 212 ที่ต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ทั้งข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการ พ.ศ. 2563 ไม่ตัดอำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 235 วรรคหนึ่ง (1) ที่จะไต่สวนข้อเท็จจริงและเสนอเรื่องต่อศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัย และไม่มีเหตุที่ศาลต้องเพิกถอนคำสั่งให้ผู้คัดค้านหยุดปฏิบัติหน้าที่

ผู้ร้องและทนายผู้คัดค้านได้ตรวจสอบพยานหลักฐานของแต่ละฝ่ายแล้ว ทั้งสองฝ่ายต่างไม่โต้แย้งคัดค้านพยานเอกสารของอีกฝ่าย

ผู้ร้อง แถลงว่า มีพยานบุคคลจะนำเข้าไต่สวน 12 ปาก และทนายผู้คัดค้านแถลงว่า มีพยานบุคคลจะนำเข้าไต่สวน 10 ปาก

องค์คณะผู้พิพากษาพิจารณาแล้วให้คู่ความฝ่ายที่อ้างพยานทำบันทึกยืนยันข้อเท็จจริงประกอบคำเบิกความของพยานแต่ละปากส่งต่อศาลก่อนวันนัดไต่สวนพยานไม่น้อยกว่า 14 วัน โดยศาลกำหนดนัดไต่สวนพยานหลักฐานวันที่ 8, 22 และ 28 ก.พ.65 และวันที่ 1-3, 8 และ 10 มี.ค.65 เวลา 09.30-16.30 น. ทุกนัด และให้นัดฟังคำพิพากษาหรือคำสั่งวันที่ 7 เม.ย.65 เวลา 10.30 น.