posttoday

หมอวรงค์เดือดอัด "ปิยบุตร" ประดิษฐ์วาทกรรมสร้างความเกลียดชัง

09 พฤศจิกายน 2564

หมอวรงค์โพสต์เดือดซัด "ปิยบุตร" ประดิษฐ์วาทกรรม สร้างความเกลียดชัง ตัดตอนประวัติศาสตร์ แนะอย่าหมกหมุ่นอยู่แต่กับฝรั่งเศส

เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 64 นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุเนื้อหาดังนี้

#ปิยบุตรหลุดโลก

นายปิยบุตรคงว่างงานมาก วันๆ จึงนั่งประดิษฐ์วาทกรรม สร้างความเกลียดชัง เล่าโยงประวัติศาสตร์ แบบตัดตอนจริงบ้างเท็จบ้าง ล่าสุดประดิษฐ์วาทกรรม คำว่า "ระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์จำแลง" หลังจากที่จะยกเลิกมาตรา 112 แล้วคนไทยไม่เอาด้วย

อยากจะบอกนายปิยบุตรว่า ถ้าเมืองไทยมี "ระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์จำแลง" อย่างที่นายปิยบุตรพูดจริง สถานการณ์คงไม่ปล่อยให้เลวร้าย ที่ลูกหลานประชาชน ถูกหลอกให้มาชูสามนิ้ว และหลายคนถูกดำเนินคดี แต่พวกยุยงเอาตัวรอดได้หรอก

ถ้ามี "ระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์จำแลง" จริง นายปิยบุตรคงไม่เห็นประชาชน คนไทยจำนวนมาก ต้องออกมาแสดงออก เพื่อปกป้อง สถาบันอันเป็นที่รักของประชาชน สถาบันที่เป็นศูนย์รวมจิตใจ ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของคนไทย เพราะการจัดการคงเด็ดขาดไปนานแล้ว

นายปิยบุตรจำไม่ได้หรือ ช่วงที่เดินสายไปช่วยเลือกตั้งท้องถิ่นที่ลำปาง มีคุณตาท่านหนึ่งไปจับมือ แล้วเขาบอกว่าอย่างไรบ้าง คุณตาเขาบอกว่า "ขอให้เว้นไว้เรื่องเดียวคือ เรื่องเกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์" ซึ่งเป็นการสะท้อนถึง รากเหง้า ความรัก ความผูกพัน ตามวิถีของสังคมไทย แต่นายปิยบุตรก็ไม่จำ ท้ายที่สุดจึงเกิดเพลง "หนักแผ่นดิน" เกิดขึ้นไปทั่ว ตามจังหวัดต่างๆ ช่วงเลือกตั้งอบจ.

สิ่งที่นายปิยบุตร ปลุกระดมให้ลูกหลานประชาชน ที่รู้ไม่เท่าทัน ทำลายทุกอย่างที่เป็นรากเหง้าความเป็นไทย ไม่ใช่สิ่งใหม่เลย สิ่งเหล่านี้เคยเกิดขึ้นในรัสเซียในปี 1917 ยุคบอลเชวิค และเคยเกิดขึ้นในจีน ในปี 1966 ยุคยุวชนเรดการ์ดมาแล้ว แม้แต่ประธานาธิบดีปูตินยังพูดเลย สิ่งที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปข้างหน้า ต้องใช้หลัก "Reasonable Conservatism" นั่นคือเราต้องอนุรักษ์สิ่งดีๆ และเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ไม่ดี

สิ่งที่นายปิยบุตรตัดตอน เรื่องการรัฐประหารในเดือนพฤษภาคม 2557 ล้มล้างรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายปิยบุตรต้องพูดให้ครบด้วย เพราะสังคมไทยในปัจจุบัน ไม่มีใครอยากให้เกิดรัฐประหารหรอก ยกเว้นมีรัฐบาลที่เลวร้าย ใช้อำนาจเผด็จการ โกงจนประเทศล่มจม จนประชาชนทนไม่ได้จึงออกมาขับไล่ วันหลังถ้าพวกคุณมีอำนาจ ต้องจำไว้เป็นบทเรียนด้วย

นายปิยบุตรพูดเองไม่ใช่หรือว่า ภูมิทัศน์ทางการเมืองไทยที่เปลี่ยนไปเช่นนี้ ประชาชนมิใช่ “ของตาย” ของใครคนใดคนหนึ่ง กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่พร้อมเป็นพลังกดดันให้ฝักฝ่ายทางการเมืองเดินหน้า จึงไม่แปลกที่ ประชาชนที่รักและหวงแหนสถาบันฯ จึงออกมาปกป้องกันทั่วทั้งแผ่นดิน

นายปิยบุตร ได้ยินเสียงเรียกร้องของคนไทยทั้งประเทศบ้างไหม? ไม่ใช่ได้ยินแต่เสียงม็อบ ที่มีแต่หนังสติ๊ก ระเบิด ปืน เสียงรถมอเตอร์ไซด์ คำด่าทอ ที่หยาบคาย ถ้านายปิยบุตรเอาหูไปฟังคนไทยทั้งประเทศบ้าง จะรู้เลยว่า ไม่มีใครเขาเอาด้วย เพราะนักการเมืองมีแต่โกง และจ้องล้มล้าง ประชาชนจึงต้องการให้ปฏิรูปนักการเมือง มากกว่าสถาบันพระมหากษัตริย์

ท้ายนี้นายปิยบุตร น่าจะเปิดหูเปิดตาตนเองบ้าง ไม่ใช่วันๆ เอาแต่อยู่กับภรรยาชาวฝรั่งเศส เพราะการ หมกมุ่นอยู่กับภรรยาที่ไม่ใช่คนไทย ความคิดความอ่านก็ซึมซับจากภรรยา โลกทัศน์ของนายปิยบุตรจึงกลายเป็นฝรั่งเศส ความคิดความอ่านของนายปิยบุตรจึงหลุดโลก และไม่เหมาะที่จะอยู่เมืองไทยต่อไป