posttoday

"ปารีณา"ขึ้นศาลนัดแรก สู้คดีฝ่าฝืนจริยธรรม กรณีรุกป่า

09 พฤศจิกายน 2564

"ปารีณา"พร้อมทนายความ เข้าฟังการนัดพิจารณาคดีครั้งแรก ในคดีไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ใน จ.ราชบุรี หลังถูกป.ป.ช. ชี้มูลความผิด

เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 64 ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดพิจารณาคดีที่ ป.ป.ช. ยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ในคดีบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนในจังหวัดราชบุรี อันเป็นการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวและส่วนรวม ซึ่งการพิจารณาคดีนัดแรก

โดยน.ส.ปารีณา เดินทางมาพร้อมกับ นายทิวา การกระสัง ทนายความ พร้อมระบุว่า ได้เตรียมรายชื่อพยานในการต่อสู้คดีทั้งหมด 10 ปาก ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินเดิม เป็นเจ้าหน้าที่ปฏิรูปที่ดิน และเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ โดยจะต่อสู้เพื่อยืนยันว่า ไม่ได้บุกรุกพื้นที่ป่าสงวน ตามที่ถูกกล่าวหา แต่เป็นการรับมรดกที่ดินส่งต่อมาจากบิดา ตั้งแต่ก่อนที่จะประกาศเป็นเขตปฏิรูปที่ดิน ตอนนี้รู้สึกสบายใจขึ้นเยอะ ตั้งแต่เปลี่ยนทนายความเพื่อมาต่อสู้คดี ซึ่งตนเองได้นำเอกสารต่างๆมอบให้กับทนายความแล้ว ยืนยันว่า ยังมั่นใจในความบริสุทธิ์

น.ส.ปารีณา ยอมรับว่า ตั้งแต่ศาลประทับรับฟ้องในคดีนี้ และมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ชีวิตก็เปลี่ยนแปลงไปเยอะ แต่เมื่ออยู่ภายใต้กฎหมาย ก็ต้องปฏิบัติตาม

สำหรับคดีดังกล่าว สืบเนื่องจาก ป.ป.ช. ยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ กรณีบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนในจังหวัดราชบุรี อันเป็นการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวและส่วนรวม โดยศาลเห็นว่า ป.ป.ช.บรรยายพฤติการณ์ชัดเจน ดำเนินการครบถ้วนจึงมีคำสั่งให้รับคำร้องและให้ น.ส.ปารีณา หยุดปฏิบัติหน้าที่ เมื่อวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา

ทั้งนี้ กฎหมาย ป.ป.ช. ปี 2561 มาตรา 81 ระบุว่า หากศาลฎีกาพิพากษาว่า มีความผิดตามที่ถูกกล่าวหา ให้ผู้ต้องคำพิพากษานั้น พ้นจากตำแหน่งนับแต่วันที่หยุดปฏิบัติหน้าที่ และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้น และจะเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดเวลาไม่เกิน 10 ปีด้วยหรือไม่ก็ได้ หากผู้ใดถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง จะไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ส.ว. สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นตลอดไป และไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ