สภาล่มซ้ำซากสะท้อน "ประยุทธ์"เดินมาสุดทางแล้ว

น.ส.นภาพร เพ็ชร์จินดา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า ปัญหาสภาล่ม ตั้งแต่เปิดประชุมสภาฯนัดแรกสะท้อนปัญหาภายในพรรคพลังประชารัฐเองที่ร้าวลึกเกินเยียวยา กลุ่มการเมืองภายในพรรคยังจ้องแทงข้างหลังกันไม่เลิก ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ว่า ตอนนี้ท่านได้เดินมาสุดทางถนนสายการเมืองแล้ว จึงควรคิดว่าจะลงจากการเมืองอย่างไร มากกว่าจะคิดว่าจะปลดร้อยเอกธรรมนัสหรือยึดพรรคพลังประชารัฐจากบิ๊กป้อมมาได้อย่างไรเพื่อให้ตัวเองได้อยู่ต่อไป

"เครือข่าย 3 ป.อุตส่าห์วางแผนออกแบบรัฐธรรมนูญเพื่อพวกเรามาเป็นอย่างดี แต่สุดท้ายก็มาตายน้ำตื้น เพราะพวกเดียวกันเองแท้ๆ วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ไม่กล้าเอากฎหมายสำคัญเข้าสภา เช่น พ.ร.บ.ควบคุมโรค เพราะกลัวถูกกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส ดัดหลัง ทำให้ประชาชนยังต้องอยู่ภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไป ”

น.ส.นภาพร เชื่อว่าหาก พล.อ.ประยุทธ์ยังฝืนอยู่ต่อไปโดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้ พรรคพลังประชารัฐก็จะไม่เสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯอีกเพราะติดข้อห้ามเรื่องการอยู่ในวาระเกิน 8 ปี ยังไม่นับรวมกระแสความนิยมที่ตกต่ำลงทุกด้าน แม้จะเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวแต่ก็ยังเข็นเศรษฐกิจไม่ขึ้น ตอนนี้เกษตรกรเดือดร้อนอย่างหนัก ชาวนาขายข้าวได้ราคาต่ำที่สุดในรอบหลายปี ขณะที่รัฐบาลให้ความสำคัญเกษตรกรเพียงบางอาชีพเท่านั้นเพราะเป็นฐานเสียงตัวเอง

"ยังไม่เห็นสัญญาณเลยว่า รัฐบาลชุดนี้จะแก้วิกฤตรอบด้านในขณะนี้ได้อย่างไร ทั้งหวยแพง น้ำมันแพง ค่าแรงต่ำ คนตกงาน ว่างงาน โรงงานปิดตัว ข้าวเปลือกราคาตกต่ำ เกษตรกรมีหนี้สินล้นพ้นตัว ประเทศมีหนี้สินท่วมหัว ขณะที่รัฐบาลมัวแต่เล่นเกมชิงอำนาจกันเอง สภาก็ส่อล่มซ้ำซาก กฎหมายสำคัญก็ไม่กล้าเอาเข้าสภา ครม.ก็ไม่กล้าปรับ จึงไม่รู้ว่าบิ๊กตู่จะอยู่ต่อไปอีกทำไม เพราะถึงอย่างไรก็ไม่ถูกเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯอยู่ดี ตราบใดที่ยังยึดพรรคพลังประชารัฐจากผู้กองธรรมนัสมาไม่ได้ จึงควรคิดหาทางลงตั้งแต่วันนี้เสียดีกว่า"น.ส.นภาพรกล่าว