"จุรินทร์"น้อมรับโพลคนกรุงหนุนนั่งนายกฯ

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ให้สัมภาษณ์ที่ ศาลากลางจังหวัดพังงา ถึงประเด็นการเมืองต่อการที่รัฐธรรมนูญจะมีการเพิ่มเขตเลือกตั้ง ทำให้ต้องจำนวนผู้สมัครเพิ่มขึ้น ขณะที่หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาสว่า จังหวัดชายแดนภาคใต้ตนลงพื้นที่ไปหลายรอบแล้ว และกำลังจะลงพื้นที่อีกครั้งคือการไปเปิดด่านตากใบ และด่านบูเก๊ะตา จังหวัดนราธิวาส เพื่อไปติดตามหลังจากที่มีการประชุมครั้งที่แล้ว ขณะนี้ทราบว่าทางมาเลเซียตอบรับแล้วที่จะให้มีการเปิดทั้ง 2 ด่านนี้ รอแค่เราพร้อมและเห็นเวลาตรงกันเท่านั้น คาดว่าจะอยู่ประมาณกลางเดือนนี้ก็สามารถที่จะเปิด 2 ด่านดังกล่าวได้ ซึ่งจะมีส่วนช่วยผลักดันการค้าชายแดนไทย-มาเลเซียให้เพิ่มสูงขึ้นได้ โดยเฉพาะการส่งออก รวมทั้งอาจจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเมื่อสถานการณ์โควิดคลี่คลาย

ส่วนจังหวัดภาคใต้ตอนบน รวมจังหวัดพังงาด้วย หากรัฐธรรมนูญได้รับการแก้ไขให้เป็นไปตามที่เสนอ ก็จะเพิ่มผู้แทนอีก 1 คน จากเดิมมี 1 คน เป็น 2 คน โดยผู้แทนเดิมจะต้องเป็นฐานในการลงสมัครรับเลือกตั้งอยู่แล้ว คือ คุณกันตวรรณ ตันเถียร และจะมีผู้สมัครใหม่เพิ่มอีกคนหนึ่ง ซึ่งยังไม่ได้พิจารณาตัวผู้สมัคร เพียงแต่ขณะนี้มีผู้สนใจแจ้งความจำนงแล้วหลายคน และพรรคจะต้องพิจารณาตามความเหมาะสมต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดพังงา ถือว่าเป็นพื้นที่เป้าหมายที่ควรจะได้ผู้แทนยกทั้งจังหวัดสำหรับพรรคประชาธิปัตย์

ผู้สื่อข่าวถามถึงจังหวัดกระบี่ ที่จะมีการเพิ่มเขตเช่นกันนั้น หัวหน้าพรรคกล่าวว่า กระบี่ก็จะเพิ่มอีก 1 เขต จาก 2 เขต เป็น 3 เขต ขณะนี้เรามีผู้แทนราษฎรอยู่ 1 คน คือท่านสาคร เกี่ยวข้อง ส่วนอีก 2 เขต ก็จะต้องหาตัวผู้สมัครต่อไป แต่เนื่องจากเรามีผู้แทนบัญชีรายชื่ออยู่อีกคน และเป็นคนกระบี่อยู่แล้ว ก็คิดว่าเบื้องต้นก็ดูว่าควรจะได้ลงที่กระบี่ ส่วนจะเป็นเขตไหนอย่างไรนั้นก็จะคุยกันอีกครั้งในเรื่องเขต เรื่องพื้นที่ เพราะจะต้องดูผู้สมัครใหม่อีกคนที่จะเพิ่มเข้ามาด้วย ซึ่งเรื่องนี้กรรมการบริหารภาคใต้จะเป็นผู้พิจารณาต่อไป ส่วนตัวคิดว่ากระบี่ก็เป็นพื้นที่เป้าหมายอีกพื้นที่หนึ่งของประชาธิปัตย์ เราก็คิดว่าโอกาสที่จะได้ผู้แทนราษฎรเพิ่มขึ้นก็มีความเป็นไปได้มาก หรืออาจจะยกจังหวัดก็เป็นไปได้ ซึ่งในกลุ่มจังหวัดอันดามันนี้ ระนองมีจำนวนเขตเท่าเดิม พังงาเพิ่ม 1 เขต ภูเก็ตเพิ่ม 1 เขต กระบี่เพิ่ม 1 เขต ตรังเพิ่ม 1 เขต ทั้งหมดก็เป็นพื้นที่เป้าหมายของพรรคประชาธิปัตย์

จากโพลล่าสุดของ มสธ. ที่คนกรุงเทพฯ ต้องการให้นายจุรินทร์ เป็นนายกฯนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ต้องขอบคุณโพล มสธ. และขอบคุณทุกโพล และตนก็เคยให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่า มันก็มีมากบ้างน้อยบ้าง เป็นเรื่องปกติของโพล และเป็นเรื่องการสำรวจความคิดเห็นประชาชนในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ด้วยเหตุผลใดเหตุผลหนึ่ง ซึ่งเราก็ต้องรับฟังไว้ทุกโพล และทุกโพลไม่ว่ามันจะออกมาดีหรือไม่ดี มันก็เป็นกระจกสะท้อนความคิดความอ่าน มันอาจจะทั้งหมดหรือไม่ทั้งหมดก็ตาม แต่ก็ต้องถือว่าส่วนหนึ่งที่เราก็ต้องรับฟังในฐานะนักการเมือง และในฐานะที่เป็นพรรคการเมืองด้วย อะไรที่ต้องปรับปรุง อะไรที่ต้องแก้ไข อะไรที่คิดว่าเดินหน้าไปสู่ความถูกต้องแล้วก็จะได้มั่นใจขึ้นในการเดินหน้าต่อไป เพราะถือว่าถูกทิศทาง สอดคล้องกับสิ่งที่ประชาชนอยากเห็น

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวอีกว่า สำหรับในกรุงเทพมหานครนั้น ต้องถือว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมาเราไม่ได้ผู้แทนเลยแม้แต่คนเดียว แต่จากการทำงานหนักของตน และพรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งทีมกรุงเทพตลอด 2 ปีมานี้ ก็คิดว่าเราดีขึ้น และได้รับการตอบรับจากประชาชนชาวกรุงเทพมหานครมากขึ้นโดยลำดับ แม้แต่มาถึงวันนี้โพลที่ออกมาก็ถือว่า ได้ช่วยตอกย้ำว่าสิ่งที่เราทำนั้นไม่สูญเปล่า และทำให้ผู้สมัคร ส.ส. ผู้สมัคร ส.ก. ที่เคาะแล้วจำนวนมากมีกำลังใจขึ้น ทุกวันนี้ก็ได้มีการลงพื้นที่โดยสม่ำเสมอ ไม่ใช่ไม่ทำอะไร เพราะฉะนั้นผู้สมัครเราทั้ง ส.ก. และ ส.ส. ของ กทม. ก็ลงพื้นที่ต่อเนื่อง และกับผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่เราเตรียมไว้ก็มีการทำงานร่วมกันแล้วหลายเดือน และพื้นที่เหมาะสมที่จะลงพื้นที่ด้วยกันก็ได้ทำงานร่วมกัน

ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่าขณะนี้มีชื่อผู้สมัครผู้ว่า กทม. ที่ประชาธิปัตย์ได้ทาบทามไว้ ไปโผล่ที่พรรคพลังประชารัฐด้วย หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ตนไม่ขอพูดถึงพรรคอื่น และไม่ขอพูดว่าไปโผล่ที่ไหน อะไร อย่างไร แต่ว่าอย่างน้อยที่สุดประชาธิปัตย์มีผู้สมัครชัดเจนแล้ว และทำงานร่วมกันแล้ว ไม่มีอะไรเปลี่ยน ทั้งตัวผู้สมัครที่พรรคตัดสินใจที่จะส่ง และตัวผู้ที่จะลงสมัครเป็นผู้ว่า กทม. ในนามพรรคก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง

ส่วนที่ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อใดนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า จะเปิดตัวเมื่อถึงเวลาที่คิดว่าเหมาะสมที่สุด ตอนนี้สัญญาณเลือกตั้งยังไม่มีเลย เราก็ต้องดูด้วยเพื่อความรอบคอบ และมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับพรรคอย่างเดียว ต้องฟังผู้สมัครด้วยว่าจะเห็นตรงกันอย่างไร เพราะเราก็ต้องฟังความเห็นซึ่งกันและกันในการทำงานร่วมกัน เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ขณะที่เรายังไม่เปิดตัวเป็นทางการ การทำงานรุกไปข้างหน้านั้นเราเดินหน้าตลอด ขณะนี้ก็ทำตลอด ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (7 พ.ย.) ตนจะได้จัด “จุรินทร์ ออนทัวร์” ลงพื้นที่ กทม. ที่เขตหลักสี่ในช่วงเช้า กับ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ และทีมกทม. ของพรรค