posttoday

วัฒนา แจง คดีบ้านเอื้ออาทร อยู่ในชั้นอุทธรณ์ ย้ำไม่คิดหนี พร้อมสู้คดี

07 ตุลาคม 2564

"วัฒนา" โพสต์แจง ยังไม่ติดคุก ถูกยึดทรัพย์ หรือ หลบหนี คดีบ้านเอื้ออาทร อยู่ในชั้นการอุทธรณ์ ย้ำเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม พร้อมสู้คดี

เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 64 นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคไทยสร้างไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวลือเกี่ยวกับคดีของผมมากมาย หลายท่านเข้าใจว่าผมติดคุกและถูกยึดทรัพย์ไปแล้ว บางท่านโทรมาตรวจสอบและตกใจเมื่อผมรับสาย จึงขอถือโอกาสนี้เรียนให้ทราบว่าคดีบ้านเอื้ออาทรยังอยู่ในระหว่างการอุทธรณ์ โดยศาลได้กรุณาให้ผมได้ประกันตัวสู้คดีเพราะเชื่อว่าผมไม่หลบหนี แต่คนจำนวนมากกลับคิดว่าผมจะหนีออกนอกประเทศ เลยขอยืนยันอีกครั้งว่ายังอยู่เมืองไทยและจะไม่ไปไหน เพราะถ้าคิดจะไปก็คงไปนานแล้วครับ

คดีนี้เกิดขึ้นหลังการรัฐประหารปี 2549 โดย คตส. ที่ตั้งขึ้นโดยคณะรัฐประหารเป็นผู้ดำเนินคดีด้วยอคติเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับการยึดอำนาจ ซึ่งแม้จะทำกันทุกทางแล้วก็ยังต้องใช้เวลาถึง 12 ปี กว่าจะถูลู่ถูกังจนเอาคดีมาถึงศาลได้ ส่วนตัวผมไม่ได้ทำอะไรผิดจึงพร้อมที่จะต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองโดยไม่เคยคิดจะหลบหนีซึ่งคงทำให้หลายคนที่อยากให้ผมหลบหนีต้องผิดหวัง

หากทุกท่านได้พิจารณาด้วยความเป็นธรรม ปล่อยวางอคติความเชื่อไม่แบ่งฝ่ายและใช้เหตุใช้ผลอ่านรายละเอียดความเป็นมาของคดี กระบวนการไต่สวนและการได้มาซึ่งพยานหลักฐานของคดีนี้อย่างครบถ้วนก็จะเข้าใจเหตุผลว่า เหตุใดผมจึงยืนยันที่จะต่อสู้คดีและไม่ไปไหนจนถึงวันนี้ เช่นเดียวกับอีก 10 กว่าคดีก่อนหน้านี้ที่ผมถูกทั้ง คตส. และ คสช. กล่าวหาที่ศาลได้ยกฟ้องไปหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคดีที่เกิดจากการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองหรือคดีที่ผมถูกกล่าวหาว่าทุจริต

ผมเป็นนักกฎหมายทั้งโดยการเล่าเรียนและโดยจิตวิญญาณ ผมรักความถูกต้องและเคารพหลักนิติธรรมโดยเฉพาะหลักความยุติธรรมทางอาญา ผมยังเชื่อมั่นว่าความยุติธรรมและความศักดิ์สิทธิ์ของกระบวนการยุติธรรมคือรากฐานที่จะค้ำยันสังคม โดยเฉพาะในยามที่บ้านเมืองแตกแยกและกระบวนการยุติธรรมถูกสั่นคลอน ในฐานะจำเลยผมจึงขอใช้สิทธิตามกฎหมายในการต่อสู้คดีอย่างเต็มที่

วันนี้ผมได้มอบให้ทนายความนำคำร้องขอแถลงการณ์ด้วยวาจาไปยื่นต่อศาล เพื่อขอให้องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ได้ลงบัลลังก์รับฟังการแถลงการณ์ด้วยวาจาของผม โดยเฉพาะในประเด็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนที่ศาลฎีกาฯ มิได้หยิบยกขึ้นวินิจฉัย อันจะเป็นการให้โอกาสจำเลยได้ต่อสู้คดีอย่างเต็มที่และจะไม่เป็นการปฏิเสธความยุติธรรมให้กับตัวผมที่เป็นจำเลย

มีความคืบหน้าอย่างไรจะมาเรียนให้ทุกท่านทราบ