"อลงกรณ์"เสนอ3ข้อแก้ปมร้าวปชป.พรรคร่วมรัฐบาล

เมื่อวันที่ 3 ต.ค.นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ระบุพรรคจะเสนอนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคเป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งหน้าว่า ไม่มีนัยยะใดๆทางการเมืองที่เกี่ยวโยงกับปัญหาการกำกับดูแล 4 กรมของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แต่อย่างใด เป็นเพียงการพูดถึงแนวทางหลักการของพรรคประชาธิปัตย์ยุคปัจจุบันและคุณสมบัติของนายจุรินทร์ว่ามีความพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นนักบริหารที่มีวิสัยทัศน์ทันสมัยก้าวหน้า ทำงานไวมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ชัดเจนโดยเฉพาะความสามารถในการสร้างรายได้ให้กับประเทศจากการส่งออกที่เติบโตต่อเนื่อง แม้ต้องเผชิญกับวิกฤตการณ์โควิด19 ไม่ใช่การบลั๊ฟนายกรัฐมนตรี

ผู้สื่อข่าวว่า ปัญหาเรื่อง 4 กรมของกระทรวงเกษตรฯจะสร้างรอยร้าวถึงขั้นถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายอลงกรณ์ กล่าวว่า คงไม่ถึงขนาดนั้น กรณีดังกล่าวไม่ใช่ความขัดแย้งในเชิงนโยบายแต่เป็นปัญหาการบริหารราชการแผ่นดินในการมอบหมายงานของนายกรัฐมนตรี ซึ่งเดิมนายจุรินทร์กำกับดูแลกระทรวงเกษตรฯ แต่มาแก้ไขคำสั่งให้รองนายกรัฐมนตรีอีกท่านมากำกับดูแล 4 กรมแยกออกไปทำให้เกิดความสับสนและทับซ้อนการบริหารของรัฐมนตรีว่าการกับรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวง ซึ่งไม่เคยมีการมอบหมายงานแบบแยกส่วนเช่นนี้มาก่อน

นายอลงกรณ์ย้ำว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์ทวงคืน 4 กรมแต่เป็นประเด็นการบริหารกระทรวงและปัญหาการไม่ปรึกษาหารือกันก่อนมีการเปลี่ยนแปลงคำสั่ง

“ปัญหานี้แก้ไขไม่ยากหากมีความจริงใจต่อกันและให้เกียรติกัน ผมมีข้อแนะนำ 3 ประการเพื่อคลี่คลายปัญหาที่เกิดขึ้นและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในวันข้างหน้าคือ 1.ยกเลิกคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ฉบับดังกล่าว 2.เร่งแต่งตั้งรมช.เกษตรฯตามโควต้าของพรรคพลังประชารัฐโดยเร็ว 3.ควรปรึกษาหารือกับรองนายกรัฐมนตรี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯและเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ในกรณีมีประเด็นการบริหารราชการแผ่นดินที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงที่พรรคประชาธิปัตย์กำกับดูแล”นายอลงกรณ์กล่าว

อย่างไรก็ตามประเด็น นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ วิพากษ์วิจารณ์ตนนั้น ตนไม่ถือสา แต่ต่อไปควรใช้ถ้อยคำอย่างสุภาพมีสัมมาคารวะและมีเหตุผลให้มากกว่านี้ให้สมกับความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้ทรงเกียรติ