posttoday

ฝ่ายค้านยื่นปปช.เชือด"บิ๊กตู่ -อนุทิน- เฉลิมชัย"ปมศึกซักฟอก

29 กันยายน 2564

ฝ่ายค้านขยายผลศึกซักฟอกลุยยื่นปปช.เอาผิดครม.ทั้งคณะพร้อมล็อกเป้า"บิ๊กตู่-อนุทิน- เฉลิมชัย"ปมทุจริตวัคซีน-ขายสต๊อกยางพารา"ชี้ ยังไม่ถึงเวลายื่นศาล รธน.ตีความนายกฯ 8 ปี เชื่อ “บิ๊กตู่” อาจอยู่ไม่ถึง

เมื่อวันที่ 29 ก.ย.2564 พรรคร่วมฝ่ายค้าน โดยมีแกนนำ อาทิ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค เพื่อไทย(พท.)นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคพท.และประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคพท. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคพท. นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพท. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคพท. นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก.ก. นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ (ปช.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรค ปช. นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ (พช.) นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย ได้ร่วมกันแถลงหลังการประชุม

โดยนายประเสริฐ กล่าวว่า 1.สืบเนื่องจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลครั้งที่ผ่านมา พรรคร่วมฝ่ายค้านมีมติลงนามในญัตติที่จะยื่นร้องต่อ ป.ป.ช. โดยได้นัดหมายเดินทางไปยื่นร้องต่อ ป.ป.ช.ในวันที่ 4 ต.ค. เวลา 10.00 น. ซึ่งจะยื่นทั้งหมด 4 ชุด ประกอบด้วย ชุดแรก เป็นคณะรัฐมนตรีทั้งคณะ ชุดที่ 2 เป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ชุดที่ 3 เป็น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข ชุดที่ 4 เป็นนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์

ทั้งนี้เป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการวัคซีนทั้งหมด 3 เรื่อง เช่น การไม่เข้าโครงการโคแว็กซ์ การผูกขาดเอื้อประโชน์วัคซีนแอสตร้าเซนเนกา การทุจริตจัดซื้อวัคซีนซิโนแวค ทุจริตการจัดซื้อชุดตรวจ ATK และการบริหารจัดการวัคซีนที่ผิดพลาด ไร้ประสิทธิภาพ จัดซื้อวัคซีนที่ไม่มีประสิทธิภาพให้คนไทย และมีเรื่องยางพาราเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการออกมติ ครม.ที่ขัดต่อกฎหมาย เอื้อประโยชน์ให้เกิดการทุจริตสต๊อกยางพารา ส่งผลให้เกิดหารขายในราคาที่ต่ำกว่าปกติ เอื้อเอกชนรายเดียว ผิดกฎหมายการยางเรื่องการรักษาเสถียรภาพ ทำราคายางลดต่ำเพราะมีการทุ่มราคา

สำหรับกรณีวาระการดำรงตำแหน่งของนายกฯ 8ปีนั้น ที่ประชุมมีความเห็นว่าบทบัญญัติมาตรา 158 เขียนไว้ชัดเจนว่า นายกฯ มีวาระในการดำรงตำแหน่งไม่เกิน 8 ปี เพื่อไม่ให้เกิดการผูกขาดอำนาจนานเกินไป และเป็นประเด็นในอนาคตอาจต้องมีการยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ

ด้าน นพ.ชลน่าน กล่าวถึงเรื่องการดำรงตำแหน่งของนายกฯ นั้น รัฐธรรมนูญมาตรา 158 เขียนชัดว่านายกฯจะดำรงตำแหน่งรวมกันแล้วเกิน 8 ปีไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการดำรงตำแหน่งติดต่อกันหรือไม่ ฝ่ายค้านแทบจะไม่ต้องยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแต่ประการใด เพราะชัดเจนในตัวมันเองแล้ว

ทั้งนี้ถ้าตีความแบบฝ่ายค้านตีความต้องนับตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค.2557 และบทเฉพาะกาลมาตรา 264 ในรัฐธรรมนูญยังระบุว่า ครม.ที่เป็น ครม.อยู่ก่อนรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ให้เป็นรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้

อย่างไรก็ตามในการยื่นร้อง ถ้าไม่มีเหตุเกิดขึ้น ศาลรัฐธรรมนูญก็คงจะไม่น่ารับไว้ เราจึงจะไม่ยื่นในขณะนี้ เพราะยื่นไว้คงไม่เกิดประโยชน์ เราจะพิจารณาเรื่องนี้เมื่อมีเหตุที่เหมาะสม

ขณะที่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ประเด็นนี้ยึดโยงกันอย่างน้อย 3 มาตรา คือ มาตรา 158 ระบุไว้ชัดเจน ซึ่งคณะผู้ร่างรัฐธรรมนูญได้ทำเอกสารอธิบายความมุ่งหมายไว้ชัดเจน ว่าเพื่อมิให้เกิดการผูกขาดอำนาจในทางการเมืองยาวเกินไป อันจะเป็นต้นเหตุให้เกิดวิกฤติทางการเมือง และหากเรายังปล่อยให้พล.อ.ประยุทธ์ สืบทอดอำนาจนานเท่าไหร่ก็จะเป็นปัญหาทางการเมืองจนเกิดวิกฤติ

มาตรา 170 ซึ่งระบุไว้ชัดเจนว่าความเป็นนายกฯ สิ้นสุดลงเมื่อครบกำหนดระยะเวลา ตามมาตรา 158 และบทเฉพาะกาลมาตรา 264 มีประเด็นสำคัญ 2 เรื่อง คือ 1.ครม.ที่ดำรงตำแหน่งก่อนรัฐธรรมนูญฉบับนี้ประกาศใช้ ก็ให้ถือเป็นรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้ด้วย และ 2.หากเราดูบทเฉพาะกาลมาตรานี้จะมีการยกเว้นลักษณะต้องห้าม และเหตุที่ต้องพ้นจากตำแหน่งของรัฐมนตรี แต่ไม่มีมาตราไหนเลยที่จะยกเว้นมาตรา 170

เรื่องนี้ฝ่ายค้านไม่จำเป็นต้องยื่นศาลรัฐธรรมนูญในตอนนี้ และการยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความในตอนนี้โดยไม่จำเป็น จะเป็นการขยายอำนาจให้ศาลรัฐธรรมนูญมากเกินจำเป็น ทั้งนี้ เราหวังว่านายกฯ จะเคารพเจตจำนงค์ของรัฐธรรมนูญที่ตนเอง และแม่น้ำหลายๆ สายของตนเองยกร่างเอาไว้

“เอาเข้าจริงๆแล้ว ผมว่าไม่จำเป็นต้องรอถึง ส.ค.ปีหน้า ทุกวันนี้ผมคิดว่ารัฐบาลทราบดีว่าเราอยากได้นายกฯ คนใหม่เร็วที่สุดทุกเวลา ส.ค.ปีนี้ยังคิดว่าช้าเกินไป” นายชัยธวัช กล่าว