posttoday

"บิ๊กตู่"แนะคนไทยต้องอยู่กับโควิด ให้ได้ ยันต่างชาติ ชื่นชมมาตรการไทย

10 กันยายน 2564

นายกฯ แนะคนไทยต้องอยู่กับ"คุณโควิด"ให้ได้ ภายใต้ความสงบ ปลอดภัย แย้มตัวเลขผู้ติดเชื้อ-ผู้หายป่วย สัญญาณดี ต่างประเทศชื่นชมมาตรการไทย

เมื่อวันที่ 10 กย. 64 ที่บริษัท เอส.บี.อุตสาหกรรมเครื่องเรือน จำกัด ตำบลละหาร อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังตรวจเยี่ยมโรงงานตามโครงการ “Factory Sandbox” จังหวัดนนทบุรีว่า สวัสดีบรรดาสื่อมวลชนที่รักทุกท่าน วันนี้ถือโอกาสมาเยี่ยมเยือนสถานประกอบการที่อยู่ในโครงการ Factory Sandbox ซึ่งเป็นมาตรการของแต่ละโรงงานอุตสาหกรรมที่จะต้องดูแลพนักงานลูกจ้าง ต้องขอชื่นชมบริษัทแห่งนี้ ที่ถือว่าเป็นสถานประกอบการรายใหญ่ ในบรรดาหลายหมื่นโรงงาน ทั่วประเทศ โดยได้คุยกับผู้บริหารและชื่นชมที่เป็นคนรุ่นใหม่ ตรงกับมาตรการที่รัฐบาลออกไป ผลสัมฤทธิ์หลายๆ อย่างเกิดจากมาตรการของรัฐบาล ที่ทางสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการมา โดยคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีก็ต้องศึกษาแนวทางจากต่างประเทศด้วย และสถานการณ์โลกต่างๆ เราจะมองบ้านเราเพียงอย่างเดียวไม่ได้ สิ่งที่โรงงานนี้ทำถือว่าเข้ากรอบทุกอย่าง ขอชื่นชมแต่ก็ยังเป็นห่วงโรงงานอื่นๆ ด้วยเช่นกัน โรงงานนี้จะเป็นแม่แบบของโรงงานขนาดใหญ่แห่งอื่นด้วย และคิดว่าหลายโรงงานก็ทำอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้ทางโรงงานได้มีการบริจาคเครื่องมือแพทย์ อุปกรณ์ช่วยเหลือดูแลประชาชนในพื้นที่ และวันนี้ในโรงงานก็มีการตรวจคัดกรอง ขอชื่นชมและจะเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติ การประกอบการเดินได้ รัฐบาลก็ได้ภาษีจากท่าน รัฐบาลไม่อยากให้หยุดการประกอบการหรือการส่งออก แต่วันนี้เริ่มดีขึ้นตามลำดับ

นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่าสิ่งที่ต้องพิจารณาในวันนี้ ตัวเลขการแพร่ระบาดในต่างประเทศ หลายประเทศที่ดีขึ้นก็กลับมาร้ายแรงอีก สถานการณ์มันเปลี่ยนแปลงได้ตลอด ขึ้นอยู่กับพวกเรากันเองที่จะต้องระมัดระวัง มากที่สุด ในการเดินทางไปไหนมาไหนเพราะเราไม่รู้ว่าใครเป็นอะไรหรือไม่ ต้องเว้นระยะห่างล้างมือ การใส่หน้ากากสำคัญสุด อย่าปล่อยปะตัวเอง ผู้ประกอบการ ประชาชนทุกคนต้องร่วมมือกัน ขอบคุณที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ซึ่งได้มีการหารือกันหลายอย่าง ทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน ในการดูแล ขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัด ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับจังหวัด

"นี่คือสิ่งที่เรียกว่าหัวใจดวงเดียวกัน ลมหายใจเดียวกัน เราต้องทำประเทศชาติให้มันสงบ ปราศจากความวุ่นวายและปลอดภัย มีชีวิตอยู่ร่วมกับโควิดให้ได้"นายกฯกล่าว

นายกฯกล่าวว่า วันนี้เราอยู่ขั้นตอนการใช้ATK ในพื้นที่เร่งด่วนต่างๆ ประชาชนสามารถจัดหาซื้อได้ เพียงแต่ว่าตรวจแล้วจะเอาไปไหน รัฐบาลก็ดูแล และวันนี้จะมีการประชุม ศบค. เพื่อพิจารณาส่วนต่างๆ หลายเรื่อง

เมื่อถามว่าการประชุม ศบค.วันนี้จะมีการพิจารณา ผ่อนคลายมาตรการเพิ่มเติมหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปพูดเพราะมีรายละเอียดปลีกย่อย ผลการดำเนินการที่ผ่านมาจะมีมาตรการอื่นเพิ่มเติมหรือไม่ สถานการณ์มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจะต้องทำอย่างไรต่อ จึงต้องคิดแผนล่วงหน้าเอาไว้ ดังนั้นการจะพูดก่อนมันก็ไม่ใช่ ไม่ว่าจะได้ข่าวมาจากไหนก็ตาม ถ้ายังไม่ได้ออกจาก ศบค.หรือ ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) และคณะรัฐมนตรี พูดไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา คนก็จะมาโทษรัฐบาล จำเป็นต้องคัดกรองให้ถี่ถ้วน ตนดูว่าทุกคนมีความต้องการ ปลดนั่นปลดนี่ ก็ต้องดูว่าสถานการณ์พร้อมหรือยัง อะไรที่ให้ได้ ทำไมนายกฯ จะไม่ให้

เมื่อถามว่าวัคซีนที่จะฉีดให้เด็กนักเรียน จะพิจารณาอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า กำลังพิจารณาอยู่ว่าจะฉีดวัคซีนชนิดไหน ก็ต้องฟังหมอว่ามา อายุต่ำกว่า 18 ปีคงจะเริ่มจากตรงไหน วันนี้ก็เป็นคนเด็กๆ จะเปิดเทอม ขณะที่ต่างประเทศก็มีปัญหา และวันนี้คนก็ไปด้วยค่าวัคซีน อย่างไรก็ตามก็ต้องดูที่ความสมัครใจ เพราะตอนนี้เป็นเรื่องของวัคซีนฉุกเฉิน แต่นายกฯจะพยายามทำให้ได้

เมื่อถามว่าการด้อยค่าวัคซีนมีผลต่อการบริหารวัคซีนของนายกหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา ต้นบอกแล้ววัคซีนทำเพื่ออะไร เพื่อบรรเทาการเจ็บป่วย ลดอัตราการเสียชีวิตใช่หรือไม่ ถ้าไม่ทำอะไรเลย มันก็มีโอกาสทั้งสิ้น วันนี้ตัวเลขที่น่าเป็นห่วงคือ ผู้หายป่วย ผู้ติดเชื้อใหม่ที่มีตัวเลขใกล้เคียง กันมาหลายวันแล้ว และบางวันผู้หายป่วยมากกว่าผู้ติดเชื้อ ก็มีผลต่อการบริหารเตียงโรงพยาบาลรัฐและโรงพยาบาลเอกชน และตัวเลขผู้ติดเชื้อที่มีอาการรุนแรงลดลง ขณะที่แต่ก่อนใช้เครื่องช่วยหายใจวันนึงเป็นพัน วันนี้เหลือ 400-500 นั่นคือสิ่งที่เราทำสำเร็จ ถ้าเราไม่ทำอะไรมาเลยตัวเลขเหล่านี้จะไม่เปลี่ยน แต่เราก็ประมาทไม่ได้ จะต้องพิจารณาทั้งหมด

เมื่อถามว่ามาตรการท่องเที่ยวยังเดินหน้าต่อและขยายเพิ่มเติมหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็ต้องเดินต่อ เราต้องอยู่ร่วมกับโควิดให้ได้ คุณโควิดเนี่ย ใช่หรือไม่มันหนีไม่พ้น ทั้งโลกก็หนีไม่พ้น ต้องใช้ทุกมาตรการที่ทำได้ ดังนั้นทุกคนต้องช่วยกัน

"ผมจะไปอยากปิดทำไม ผมรู้ว่า ทุกคนมีค่าใช้จ่าย มีอะไรต่างๆ ส่วนไหนที่รัฐบาลดูแลได้ก็ดูแลให้ ไปพลางก่อน แต่ทุกอย่างจะกลับมาระดับเดิมคงลำบาก แต่แนวโน้มน่าจะดีขึ้น จากสถานการณ์ที่เราประเมินในต่างประเทศ เราทำอะไรได้บ้าง ทำมากกว่าหลายประเทศ ไม่ว่าจะเงินช่วยเหลือ การเข้าถึงประชาชนโดยตรง ต่างประเทศเขาชม เราทั้งนั้น ว่าทำได้ องค์กรระหว่างประเทศ ธนาคาร IMF ก็บอกว่ารัฐบาลใช้เงินจำนวนมาก ถ้าเทียบกับตัวเลข GDP ที่มีอยู่ ในการแก้ไขปัญหาโควิดเราต้องฟังเขาด้วย แน่นอนอาจไม่พอใจใครทุกคน แต่ก็ต้องช่วยกัน สื่อก็ต้องช่วย" นายกฯกล่าว