posttoday

"หมอชลน่าน"จ่อเอาผิด"ประยุทธ์"ปมจัดซื้อเอทีเคส่อล็อกสเปค

31 สิงหาคม 2564

"ชลน่าน"อภิปราย"ประยุทธ์"ปมขัดมติครม.-ส่อล็อกสเปคจัดซื้อเอทีเค ลั่นจะยื่นเอาผิดต่อป.ป.ช.-ศาลทุจริต

วันที่31ส.ค. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมและนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข จากความล้มเหลวของการแก้ปัญหาโควิด-19 และหลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วเสร็จ พรรคเพื่อไทยจะยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทันที เพราะปฏิบัติหน้าที่มิชอบ พฤติการณ์ฉ่อฉล ทุจริตต่อหน้าที่และจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดรัฐธรรมนูญ ทั้งการไม่ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อ 2 มีนาคม 2563 ที่ให้เร่งดำเนินการแผนการบริหารจัดการวัคซีน และติดตามให้โปร่งใส ให้ประชาชนได้รับวัคซีนอย่างท้่วถึงและประสิทธิภาพสูงสุดแต่ พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐมนตรีไม่ได้ติดตามกำกับให้ปฏิบัติตามมติ ถือว่า ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เข้าข่ายผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา157 นอกจากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ ยังมีหนังสือข้อสั่งการอีกหลายฉบับที่ไม่ปฏิบัติตามมติครม. 

“เหตุผลที่พล.อ.ประยุทธ์ออกข้อสั่งการนั้น เพราะเคยมีประสบการณ์ที่เคยทำกับอดีตนายกรัฐมนตรีคนหนึ่ง จนเขาไม่สามารถอยู่ในประเทศได้ ที่ตั้งข้อกล่าวหาว่าปล่อยปละละเลย ดังนั้นพล.อ.ประยุทธ์กลัวว่าจะอยู่ไม่ได้ หลังลงจากอำนาจ จึงออกข้อสั่งการเป็นข้อแก้ต่างหากมีเรื่องฟ้องร้องต่อศาล ทั้งที่ข้อสั่งการนั้น เป็นสิ่งที่รู้อยู่แก่ใจ ซึ่งผมจะเอาท่านเข้าคุกแน่ เพราะเป็นพฤติการณ์ที่เล็งเห็นผล” นพ.ชลน่าน กล่าว

นพ.ชลน่าน อภิปรายด้วยว่า ประเด็นการจัดหาชุดตรวจเอทีเค ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวนอกจากส่งไป ป.ป.ช. แล้ว ยังสามารถส่งไปที่ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบกลาง เพราะส่อทุจริต และขัดรัฐธรรมนูญ  เนื่องจากพบว่าพล.อ.ประยุทธ์ มีเจตนาพิเศษปรับเปลี่ยนข้อสั่งการเพื่อเดินหน้าการประมูล ATK ซึ่งมีปัญหา ตามแพทย์ทักท้วงถึงความแม่นยำของการตรวจ  ที่ควรเปลี่ยนก้านให้ยาวเพื่อลงลึกถึงคอ และมีความแม่นยำ ทั้งนี้องค์การอนามัยโลกกำหนดความแม่นยำที่ 98% แต่การจัดซื้อจัดจ้างได้ปรับ ให้ใช้ความแม่นยำที่ 90% ถือว่าจะมีความคลาดเคลื่อน 10% หากตรวจประชาชน 8.5 ล้านคน จะได้ผลลบลวง 8.5 แสนคน และตามสเปคที่จัดซื้อ จะปั่นแค่ระดับโพรงจมูก ราคาถูกทั้งที่หมอต้องการปั่นลึกระดับคอ เพื่อความแม่นยำของการตรวจ สิ่งที่เปลี่ยนเงื่อนไขเพื่อให้บางบริษัทเข้ามา  

"เมื่อ 16 สิงหาคม 2564 ซึ่งใช้อำนาจตามกฎหมายบริหารราชการแผ่นดินต้องปฏิบัติ ออกข้อสั่งการว่าด้วยข้อกำหนดคุณสมบัติชุดตรวจ ATK ที่กำหนดความแม่นยำและผ่านการรับรองขององค์การอนามัยโลกแต่กรณีดังกล่าวนายอนุทินเพิกเฉย ต่อการล้มการประมูล ATK รอบแรก ถือว่าละเว้นการทุจริตต่อหน้าที่ แต่ต่อมาวันที่ 20 สิงหาคมพบการออกข้อสั่งการแก้ไข โดยเจตนาพิเศษ ไม่ต้องผ่านการรับรองขององค์กรอนามัยโลก และตัดข้อความเรื่องความแม่นยำ ทั้งนี้มีคนบอกตนว่าเพราะมีคน 3 คนเข้าไปพบ ทำให้พล.อ.ประยุทธ์เลือกผลประโยชน์ของคน 3 คนโดยนำเงิน 400 ล้านบาทแลกกับประโยชน์ประชาชน และ วันที่ 30 สิงหาคม ได้ลงนามสัญญาถือว่าความผิดสำเร็จแล้วโดยพรรคเพื่อไทยได้ร่างคำร้องไว้แล้ว” นพ.ชลน่าน อภิปราย

นพ.ชลน่าน อภิปรายด้วยว่า รัฐบาลมีอำนาจจัดซื้อแบบเฉพาะเจาะจง เพื่อให้ได้ของที่มีคุณภาพ แต่ไม่ทำ เพราะ นายอนุทินเห็นช่องทางพลิกแพลงให้บริษัทเข้ามาประมูล ทำให้บริษัทที่เสนอราคาต่ำกว่าเป็นผู้ชนะ ทั้งนี้การซื้อแบบเฉพาะเจาะจง ไม่ใช่การล็อกสเปค แต่ความพยายามบิดราคาประมูลคือการล็อกสเปคที่ถูกต้องตามกฎหมาย พล.อ.ประยุทธ์และนายอนุทินใช้ช่องกฎหมายเพื่อแสวงหาประโยชน์ให้ตนเองและพวกพ้อง เอื้อประโยชน์ให้เกิดความเสียหายกับประชาชนอย่างร้ายแรง