posttoday

'ไทยสร้างไทย'ชวนปชช.ติดตามคำสั่งศาลปมฟ้อง"บิ๊กตู่"

30 สิงหาคม 2564

'ไทยสร้างไทย'ชวนปชช.เกาะติดคำสั่งศาลอุทธรณ์ปมฟ้องรัฐบาล 15 พ.ย.นี้

วันที่ 30 ส.ค. พรรคไทยสร้างไทย โดย ดร.โภคิน พลกุล ประธานกรรมการยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ นายวัฒนาเมืองสุข ประธานคณะกรรมการกฎหมายและการเมือง แถลงความคืบหน้าการดำเนินคดีฟ้องนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หลังจากศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำสั่งให้ส่งสำนวนความเห็นให้ประธานศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าคดีอยู่เขตอำนาจของศาลอาญาทุจริต และประพฤติมิชอบหรือไม่

ดร.โภคิน กล่าวว่าตามที่พรรคไทยสร้างไทยได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในประเด็นว่าควรฟ้องและดำเนินคดีกับรัฐบาล กรณีบริหารจัดการสถานการณ์โควิด-19 บกพร่องผิดพลาดอย่างร้ายแรง ปรากฏว่ามีประชาชนเข้าชื่อให้ฟ้องร่วมถึง 700,000 คน

พรรคไทยสร้างไทย ได้ประสานกับสมาคมทนายความแห่งประเทศไทยให้เป็นทนายความ เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ต่อมาเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2564 นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทยได้เป็นทนายความยื่นฟ้องพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 157 และ 165 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง โดยศาลนัดฟังคำสั่งว่าจะรับฟ้องหรือไม่ในวันที่ 30 สิงหาคม 2564 เวลา09.30 น.

โดยวันนี้ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางมีคำสั่งว่า กรณีมีปัญหาว่าคดีนี้อยู่ในอำนาจการพิจารณาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางหรือไม่ เห็นควรส่งสำนวนนี้ให้ประธานศาลอุทธรณ์วินิจฉัย และรอการพิจารณาคดีไว้ชั่วคราวจนกว่าประธานศาลอุทธรณ์จะได้มีคำวินิจฉัย ให้นัดพร้อมเพื่อรอฟังผลหรือฟังคำสั่งของประธานศาลอุทธรณ์ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 เวลา 9.00 นาฬิกา ซึ่งพรรคไทยสร้างไทย จะมีการติดตาม และดำเนินการปรึกษาหารือกับสมาคมทนายความแห่งประเทศไทยเกี่ยวกับคดีนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป

ด้านนายวัฒนา กล่าวว่ากรณีมีข้อสงสัยว่าคดีใดจะอยู่ในอำนาจศาลหรือไม่นั้น ตามพระราชบัญญัติการจัดตั้งศาลอาญาทุจริต และประพฤติมิชอบ มาตรา 11 ให้ดำเนินการส่งสำนวนให้ประธานศาลอุทธรณ์วินิจฉัย และให้ถือเป็นที่สุดซึ่งหากเทียบเคียงกับคดีการดำเนินการฟ้องร้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)เมื่อปี 2562 ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา มีคำวินิจฉัยให้ประชาชนสามารถดำเนินการฟ้องร้องคณะกรรมการ ป.ป.ช.ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางได้ แต่ครั้งนี้เนื่องจากเป็นการฟ้องร้องนายกรัฐมนตรี ศาลอาจจะต้องการความรอบในการดำเนินคดี ซึ่งโดยส่วนตัวเห็นว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. กับนายกรัฐมนตรี อยู่ในกลุ่มประเภทเดียวกันแต่อย่างไรก็ตามก็ต้องติดตามฟังผลคำวินิจฉัยของประธานศาลอุทธรณ์ ซึ่งกระบวนการต่อไป หากศาลมีคำสั่งรับฟ้องจะดำเนินการไต่สวนมูลฟ้องต่อไป