posttoday

ค้านส่ง “เพนกวิน-นิว” รักษาโควิดฯรพ.ไม่เป็นธรรมกับผู้ต้องขังคนอื่น

27 สิงหาคม 2564

เครือข่ายปกป้องสถาบันฯ ยื่นหนังสือ กระทรวงยุติธรรม ค้านส่ง “เพนกวิน-นิว” รักษาโควิดฯรพ.ธรรมศาสตร์ ชี้ไม่เป็นธรรมกับผู้ต้องขังคนอื่น ด้าน ยธ.ย้ำรพ.ราชทัณฑ์มีมาตรฐานรักษา

เมื่อวันที่ 27 ส.ค.64 นายจักรพงศ์ กลิ่นแก้ว แกนนำเครือข่ายพสกนิกรปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์(คปปส.) นายฐากูร นวลแก้ว โฆษกกลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบัน และ นางแน่งน้อย อัศวกิตติกร แกนนำกลุ่ม ศอช. เข้ายื่นหนังสือต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เพื่อคัดค้านการย้ายการรักษาอาการป่วยโควิดของ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน และ นายสิริชัย นาถึง หรือนิว ผู้ต้องหาในคดี ม.112 จากฑัณทสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ไปรักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ รังสิต โดยไม่มีเหตุอันควร โดยมี นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นผู้รับเรื่อง

นางแน่งน้อย กล่าวว่า พวกตนมาร้องขอให้กระทรวงยุติธรรมและศาลพิจารณาอย่างรอบคอบ ในการที่จะส่งตัวผู้ต้องหาคดี มาตรา 112 เข้ารับการรักษาที่อื่นระหว่างถูกควบคุมตัว โดยไม่มีเหตุอันควร เนื่องจากกรณีที่มีหนังสือของ ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต มีเนื้อความอนุเคราะห์ขอให้ นายพริษฐ์ และนายสิริชัย ที่เป็นนักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัวก่อนตัดสินคดี จากการมีพฤติกรรมปลุกปั่น ยุยง ปลุกระดม ให้เกิดความแตกแยกของคนในสังคม รวมถึงของการเป็นแกนนำม็อบ พุ่งประเด็นชัดเจนว่าไม่ต้องการสถาบันพระมหากษัตริย์ จนเป็นการถูกดำเนินคดีไปแล้วนั้น

“แต่ศาลยุติธรรมก็ยังเมตตา และให้ประกันตัวโดยมีเงื่อนไขว่าหากได้รับการประกันตัวแล้ว จะไม่กระทำการในรูปแบบเดิมๆ อีก ซึ่งบุดคลดังกล่าวยอมรับเงื่อนไขในการประกันตัว และต่อมาไม่นาน นายพริษฐ์ ชีวารักษ์ และพวก ยังได้กระทำผิดในรูปแบบเดิมๆ โดยไม่ได้คำนึงถึงเงื่อนไขการได้รับการประกันตัว จนถูกศาลสั่งเพิกถอนการประกันตัว และถูกจับกุมอีกครั้ง”

นางแน่งน้อย กล่าวอีกว่า กรมราชทัณห์ มีนักโทษผู้ถูกคุมขังอยู่ทั่วประเทศประมาณ 300,000 ราย ซึ่งหากมีการอนุเคราะห์ นักโทษ2 รายก็จะเกิดความไม่เป็นธรรม และสร้างบรรทัดฐานทางสังคมในแบบผิดๆ ดังนั้น กลุ่มพสกนิกรปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ จึงเห็นควรให้ท่านพิจารณาอย่างรอบคอบและรอบด้าน และไม่ให้สังคมเกิดความเคลือบแคลงสงสัยในเรื่องการเลือกปฏิบัติ ด้วยการไม่อนุญาตให้ นายพริษฐ์ และพวก ไปรักษาตัวที่อื่น โดยไม่มีเหตุอันควร เพื่อสร้างบรรทัดฐานที่ดีต่อสังคมต่อไป

ด้าน นายจักรพงศ์ เผยว่า การที่ นางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ มารดาของ นายพริษฐ์ อ้างมาร้องขอในฐานะแม่ให้ผู้ต้องขัง 2 ราย ย้ายรักษาภายนอกเรือนจำ จะเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ผิด และนักโทษอีก 300,000 ราย ทั่วประเทศจะไม่ได้รับความเป็นธรรม หากทำได้คนอื่นก็ต้องได้ด้วยเช่นกัน

ส่วนทาง นายวัลลภ เปิดเผยว่า กระทรวงยุติธรรมขอชี้แจงว่าผู้ต้องขังที่ถูกควบคุมตัวในเรือนจำขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาล ซึ่งเป็นองค์กรอิสระ แต่กระทรวงฯในฐานะกำกับดูแลกรมราชทัณฑ์ มีมาตรฐานดูแลผู้ต้องขังป่วย โดย รพ.ราชทัณฑ์ มีกระบวนการดูแลตามมาตรฐานสาธารณสุข ตั้งแต่การรับตัว แยกห้องกักโรค ขั้นตอนการรักษา