posttoday

หมอประเวศยื่น9ข้อเสนอปฏิรูปสังคม

19 ธันวาคม 2553

หมอประเวศยื่น 9 ข้อเสนอให้นายกฯ เพื่อเดินหน้าปฏิรูปประเทศ แนะเร่งออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก้ไขความไม่เป็นธรรม-มอบอำนาจให้ท้องถิ่นบริหารทรัพยากรเอง 

หมอประเวศยื่น 9 ข้อเสนอให้นายกฯ เพื่อเดินหน้าปฏิรูปประเทศ แนะเร่งออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก้ไขความไม่เป็นธรรม-มอบอำนาจให้ท้องถิ่นบริหารทรัพยากรเอง 

นพ.ประเวศ วะสี ประธานคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป (คสป.) และราษฎรอาวุโส กล่าวปาฐกถา เรื่อง “ข้อเสนอประชาชนปฏิรูปประเทศไทย” ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ โดยมีใจความตอนหนึ่งว่า การปฏิรูปสังคมจะดีได้และประสบความสำเร็จ ก็ต้องสร้างจากฐานที่แข็งแรง โดยมีทั้งบูรณาภาพ และดุลยภาพ ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ 1. ทิศทางอุดมคติของประเทศ โดยสิ่งแรกจะต้องปฏิรูปจิตสำนึก เคารพความเป็นธรรมของแต่ละคนอย่างเท่าเทียม และปฏิรูปทิศทางประเทศไทย สู่การอยู่ร่วมกันอย่างเป็นธรรม แทนการเอาเงินเป็นตัวตั้ง โดยเป้าหมายของการพัฒนาประเทศจะต้องสร้างสัมมาชีพให้เต็มพื้นที่ เพื่อให้เกิดความมั่นคงในชีวิต สังคม การเมือง และเป็นปัจจัยของการอยู่ร่วมกันอย่างร่มเย็น เป็นสุข

หมอประเวศยื่น9ข้อเสนอปฏิรูปสังคม นพ.ประเวศ

2. ต้องตั้งฐานของชาติให้แข็งแรง ซึ่งนับว่าเป็นหัวใจของการปฏิรูปประเทศ คือจะต้องปฏิรูปการบริหารประเทศจากการรวมศูนย์อำนาจ มาเป็นใช้พื้นที่เป็นตัวตั้ง เพื่อความเข้มแข็งในจังหวัด เรียกว่า เทศาภิวัฒน์ เพื่อให้ชุมชนท้องถิ่นจัดการทรัพยากร การทำมาหากินด้วยตนเอง เชื่อมโยงระหว่าง การสร้างฐานความยุติธรรม วัฒนธรรม ระบบเศรษฐกิจ และฐานสังคมต่างๆ กับอำนาจรัฐ

3. ระบบต่างๆ ต้องเชื่อมระหว่างยอดกับฐาน เช่น ปฏิรูปการจัดสรรทรัพยากรอย่างเป็นธรรม โดยต้องมีการปฏิรูปที่ดิน ระบบภาษี ระบบสวัสดิการ ประกอบกับการปฏิรูประบบยุติธรรม อาทิ จัดทำกฎหมายเพื่อคนจน นิรโทษกรรมคนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม รวมไปถึงการปฏิรูปโครงสร้างการศึกษา ปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ ปฏิรูประบบการสื่อสาร และปฏิรูปอำนาจรัฐ

นอกจากนี้ ยุทธศาสตร์พลังอำนาจที่ใช้ในอดีต มี 2 อย่างคือ พลังอำนาจรัฐและพลังอำนาจเงิน ดังนั้น จะต้องการปฏิรูปประเทศครั้งนี้จะต้องเปลี่ยนมาใช้ยุทธศาสตร์การปฏิรูป โดยใช้พลังอำนาจที่ 3 คือ พลังอำนาจรัฐ พลังอำนาจเงิน และพลังอำนาจสังคม ซึ่งเป็นพลังทางสังคม หากสังคมติดอาวุธด้วยปัญญา มีการใช้สันติวิธี และสื่อสารถึงกัน ด้วยการเชื่อมโยงสังคมกับอำนาจรัฐใช้สิ่งเหล่านี้ประชาชนจะเป็นผู้ชนะในที่สุด ซึ่งจะเป็นจุดเปลี่ยนของประเทศไทย

สำหรับข้อเสนอของคสป. ที่เสนอให้รัฐบาลดำเนินการสนับสนุนยุทธศาสตร์สังคมซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญ มี 9 ข้อประกอบด้วย 1.ให้สื่อมวลชนของรัฐทำการสื่อสารเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย 2.สนับสนุนให้มีการรวมตัวร่วมคิดร่วมทำในทุกพื้นที่ ในทุกองค์กร และในทุกเรื่อง

3. ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ปรับทิศทางใหม่ประเทศไทย โดยมีเป้าหมายใหม่ และดรรชนีพัฒนาใหม่ ที่ถือการอยู่ร่วมกันอย่างสมดุลและการมีสัมมาชีพเต็มพื้นที่เป็นตัวตั้ง

4.ให้ส่วนราชการปรับบทบาทจากการเอากรมเป็นตัวตั้ง เป็นเอาพื้นที่เป็นตัวตั้ง และเมื่อมีความพร้อมให้ออกกฎหมายการบริหารประเทศโดยปลดล็อคอำนาจของกระทรวงทบวงกรมต่างๆ เพื่อให้ชุมชนท้องถิ่นจัดการตัวเองให้ได้มากที่สุด

5.ให้มหาวิทยาลัยของรัฐสนับสนุนความเข้มแข็งของชุมชนท้องถิ่นและการพัฒนาอย่างบูรณาการในจังหวัด อย่างน้อย 1 มหาวิทยาลัย ต่อ 1 จังหวัด 6.ให้กระทรวงยุติธรรม ปฏิรูประบบความยุติธรรม โดยยกร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ดำเนินการศูนย์ยุติธรรมชุมชน เสนอปฏิรูปกฎหมายเพื่อคนจน และจัดตั้งกลไกในการวิจัยและพัฒนาระบบความยุติธรรมทั้งหมด

7.ให้กระทรวงการคลังเสนอการปฏิรูประบบภาษีเพื่อความเป็นธรรมและปฏิรูประบบสวัสดิการสังคม และปฏิรูปการเงินการคลังเพื่อสร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ และ 9. ให้หน่วยงานของรัฐรับข้อเสนอทางนโยบายจากที่ประชุม คสป.ไปปฏิบัติและร่วมมือกับ คสป.ในการติดตามการปฏิบัติ และสร้างกลไกในความร่วมมือทางนโยบายระหว่างประชา - รัฐ ให้เป็นการถาวรต่อไป

ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมารับข้อเสนอของ นพ.ประเวศด้วยตัวเอง หลังเสร็จการภารกิจจากการจัดรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์"

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่าจะรับข้อเสนอของ คสป. ไปพิจารณา โดยงานที่รัฐบาลกำลังเคลื่อนไปด้วยตัวเองขณะนี้ไม่มีอะไรขัดแย้ง มีแต่ความสอดคล้องกัน ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาผลสรุปงานจากคณะกรรมการปฏิรูปทุกด้านก็สอดคล้องกัน ซึ่งรัฐบาลรับไปทำแผนปฏิบัติการ และดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม ในส่วนของสื่อมวลชนก็ได้รับข้อเสนอจากคณะบดีนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแล้ว ขณะที่กฎหมายคุ้มครองวิชาชีพ ขณะนี้กำลังเดินหน้าไป ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนขับเคลื่อนเรื่องนี้ต่อไป