"วิรัช"เผยเห็นใจ"ไพบูลย์"หลังร่างรัฐธรรมนูญพปชร.ถูกตีตก

วันที่ 25 มิ.ย. นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (ประธานวิปรัฐบาล) กล่าวถึงการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ร่างของพรรคพลังประชารัฐถูกตีตกไป ว่า น้อมรับทุกคำติติงที่สมาชิกหลายคนให้ข้อสังเกตไว้ ยอมรับว่าเห็นใจนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะผู้เสนอร่างฯ แก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่ง ส.ว.ได้แสดงความเห็นว่าร่างดังกล่าวมีปัญหา

นายวิรัชกล่าวว่า ตนในฐานะประธานวิปรัฐบาลได้หารือกับที่ประชุมวิปว่าจะแก้ไขอย่างไร ซึ่งก็คิดกันว่าเอาร่างเดียวก็ยังดี คือให้ผ่านร่างที่ 13 ที่เสนอโดยพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีเนื้อหาเหมือนกับที่พรรคพลังประชารัฐได้เสนอเอาไว้ในร่างแรกคือเรื่องระบบเลือกตั้งบัตร 2 ใบ ส.ส.เขต 400 และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 โดยในวันที่ 29 มิถุนายนนี้จะเป็นการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (แก้ไขเพิ่มเติม) ฉบับที่ … พ.ศ. … นัดแรก คิดว่าจะใช้ระยะเวลาในชั้นแปรญัตติไม่นาน ตนเชื่อว่าจะเดินหน้าไปได้

เมื่อถามว่า การลงมติวานนี้ (24 มิ.ย.) ที่ ส.ว.ไม่เห็นชอบร่างของพรรคพลังประชารัฐแม้แต่คนเดียว มองว่าเป็นการเสียหน้าหรือไม่ นายวิรัชกล่าวว่า อย่าไปคิดว่าเป็นการเสียหน้าหรือไม่เสียหน้า หากมองจากภาพรวมทั้งหมดหลายร่างได้คะแนนเกิน 400 คะแนน เราถือว่าไม่มีอะไรแล้ว แม้ร่างของพรรคไม่ผ่านตอนนี้ก็ต้องเดินหน้าต่อ

ถามต่อว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 12 ร่างที่ถูกตีตกไปไม่สามารถเสนอในสมัยประชุมนี้ได้ใช่หรือไม่ และจะกระทบกับร่างของภาคประชาชนที่จะเสนอเข้ามาด้วยหรือไม่ นายวิรัชกล่าวว่า ตอนนี้ร่างของภาคประชาชนยังไม่เสนอมา เราก็เดินหน้าของเราไป หากร่างของประชาชนเสนอเข้ามาก็อยู่ที่นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา จะบรรจุเข้าระเบียบวาระตอนช่วงไหน เราพิจารณาแก้ไขแค่ร่างที่ 13 เท่านั้น จะพิจารณานอกเหนือจากนี้ไม่ได้

เมื่อถามว่า สาเหตุที่ทำให้ร่างของพรรคพลังประชารัฐถูกตีตกเพราะการแก้ไขมาตรา 144 และ 185 ใช่หรือไม่ นายวิรัชกล่าวว่า การแก้มาตรา 144 และ 185 ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้วุฒิสภาไม่ให้ความเห็นชอบ แต่ไม่อยากรื้อฟื้นมาก เพราะหากพูดมากกว่านี้จะเป็นการบาดหมางกันเกินไป ต้องเดินหน้าสมานฉันท์ดูแลไม่ให้เกิดรอยร้าวทั้ง 2 สภา

เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าพรรคพลังประชารัฐได้มีการลงมติเห็นชอบร่างมาตรา 272 ตัดอำนาจ ส.ว.เลือกนายกรัฐมนตรีนั้น จะถูกมองว่าเป็นปฏิกิริยาโต้กลับ ส.ว.หรือไม่ นายวิรัชกล่าวว่า อาจเป็นปฏิกริยาโต้กลับอย่างหนึ่ง ซึ่งจะบีบบังคับ ส.ส.ไม่ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นความต้องการของผู้ใหญ่

เมื่อถามถึงกรณีที่ กมธ.จะเสนอให้นายวิรัชเป็นประธาน กมธ. นายวิรัชกล่าวว่า ตนจะไม่รับตำแหน่งประธาน กมธ. เพราะมีหลายภารกิจต้องทำ แต่สามารถเข้าไปในคณะกรรมาธิการได้ เพื่อให้คำแนะนำเรื่องการแก้ไขบัตร 2 ใบ และการเลือกตั้ง 400 เขต จากประสบการณ์ตนที่มี โดยพรรคพลังประชารัฐจะเสนอนายไพบูลย์ เป็นประธาน กมธ.เพราะมีความเหมาะสมรอบคอบ และเชื่อว่าจะพิจารณาในชั้น กมธ.ไม่นานคาดว่าไม่เกิน 1 เดือนก็จะกลับเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาในวาระที่ 2