posttoday

โพลชี้ประชาชนไม่เชื่อมั่น กกต.-ป.ป.ช.-ศาลรัฐธรรมนูญ

09 พฤษภาคม 2564

ซูเปอร์โพลเผยผลสำรวจ "ประเมินองค์กรอิสระ รัฐธรรมนูญ 60" พบ กกต.-ป.ป.ช.-ศาลรัฐธรรมนูญ-คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้รับความวางใจจากประชาชนต่ำกว่าครึ่ง

เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 64 นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล เปิดเผยสำรวจภาคสนาม เรื่อง ประเมินองค์กรอิสระ รัฐธรรมนูญ 60 กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยสำรวจกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,293 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 1 – 8 พ.ค. 64 สรุปผลได้ดังนี้

จากการพิจารณาค่าความวางใจของประชาชนต่อ องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญปี 60 พบว่า ค่าความวางใจของประชาชนที่ได้ต่ำกว่าครึ่งและต่ำสุดคือ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ร้อยละ 41.23 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ร้อยละ 42.28 ศาลรัฐธรรมนูญ ได้ร้อยละ 43.47 และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้ร้อยละ 48.62 มีความหมายว่า ได้รับความวางใจจากประชาชนต่ำกว่าครึ่ง

มีเพียงคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินและผู้ตรวจการแผ่นดิน เท่านั้นได้รับความวางใจจากประชาชนเกินครึ่งคือร้อยละ 54.01 และร้อยละ 55.65 จากคะแนนเต็ม 100 อย่างไรก็ตาม ค่าความวางใจของประชาชนต่อองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ปี 60 โดยภาพรวมได้ต่ำกว่าครึ่งคือร้อยละ 45.20 เท่านั้น

นอกจากนี้ ที่น่าห่วง คือ ผลประเมินด้านต่าง ๆ ขององค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ปี 60 พบว่า ได้รับผลการประเมินต่ำกว่าครึ่งทุกตัวชี้วัด ได้แก่ การยึดหลัก นิติธรรม ได้ร้อยละ 46.48 ด้านคุณสมบัติของผู้นำองค์กรอิสระที่ดีได้ร้อยละ 45.91 ด้าน ยึดหลัก จริยธรรม ได้ร้อยละ 43.33 ด้านความน่าเชื่อถือ ได้ร้อยละ 43.07

ด้านความโปร่งใส ได้ร้อยละ 39.64 ด้านความยึดโยงกับประชาชน ได้ร้อยละ 37.42 ด้านประชาชนได้ประโยชน์ได้เพียงร้อยละ 35.31 ด้านการตรวจสอบได้ ได้เพียงร้อยละ 35.27 ด้านการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนได้ร้อยละ 33.81 และด้านความเป็นอิสระ ปราศจากการแทรกแซง ได้ต่ำสุดคือร้อยละ 33.16 ตามลำดับ

ประเด็นที่น่าพิจารณาคือ ผลการทดสอบปัจจัยที่สำคัญที่สุดและรอง ๆ ลงไป ที่มีผลต่อความวางใจของประชาชนต่อองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญปี 60 โดยรวม ด้วยการทดสอบสถิติ Multiple Regression Analysis พบว่า ความโปร่งใส ความน่าเชื่อถือ การยึดหลักนิติธรรม และคุณสมบัติของผู้นำองค์กรอิสระที่ดี เหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ ความวางใจของประชาชนต่อองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญเพิ่มสูงขึ้น

นอกจากนี้ ผลการศึกษายังพบด้วยว่า ถ้าประชาชนพอใจต่อ คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน คณะกรรมการ กกต. ศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ตรวจการแผ่นดิน และคณะกรรมการ ป.ป.ช. จะส่งผลให้ ประชาชนพอใจต่อองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญปี 60 เพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติในการศึกษาครั้งนี้

นายนพดล กล่าวว่า ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่า องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญปี 60 กำลังตกอยู่ในสภาวะวิกฤตศรัทธาของประชาชน ในทุกตัวชี้วัด เป็นผลการศึกษาที่ชี้ถึงวิกฤตศรัทธาของประชาชนต่อองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญปี 60 อย่างน่าเป็นห่วงยิ่ง

อย่างไรก็ตาม ผลการทดสอบทางสถิติชี้ให้เห็นว่า อะไรเป็นเหตุให้ประชาชนวางใจ ต่อองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญปี 60 ได้ ซึ่งผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยสำคัญ คือ ต้องเพิ่มเรื่องความโปร่งใส ความน่าเชื่อถือ การยึดหลักนิติธรรม และคุณสมบัติของผู้นำองค์กรอิสระที่ดี

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวต่อว่า องค์กรอิสระมีความสำคัญยิ่งในการตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติและศาล ไม่ให้ใช้อำนาจโดยมิชอบด้วยกฎหมายและไม่สอดคล้องกับผลประโยชน์ของชาติและประชาชน ดังนั้น ที่มาขององค์กรอิสระ คุณสมบัติบุคคลขององค์กรอิสระจึงมีความสำคัญยิ่ง นอกจากนี้ การทำงานขององค์กรอิสระ ต้องมีความเชี่ยวชาญ ยึดหลักนิติรัฐ กล้าหาญ มีความเป็นมืออาชีพ ชัดเจนและมีอิสระอย่างแท้จริง ทั้งต้องไม่โดดเดี่ยวและได้รับการสนับสนุนจากฝ่ายต่างๆ