posttoday

ศาลยกคำร้องปล่อยตัว “เพนกวิน” หลังหอบเงินล้านขอประกันตัว

04 มีนาคม 2564

ศาลยกคำร้องไม่ปล่อยตัว “เพนกวิน” หลังแม่นำหลักประกัน 1 ล้านบาทขอประกันตัว ชี้การที่ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามคำสั่งของศาลชั้นต้น ย่อมเป็นการยุติ หากข้อเท็จจริงในทางคดีไม่ได้เปลี่ยนไป

จากกรณีที่วันที่ 4 มี.ค. นางสุรีรัตน์ เปิดเผยว่า นำหลักทรัพย์ จำนวน 1 ล้านบาท จากกองทุนราษฎรประสงค์ ที่ก่อตั้งโดยนายอานนท์ มาขอยื่นคำร้องต่อศาลในการขอประกันตัว ซึ่งแบ่งเป็น 2 คดี คดีละ 500,000 บาท ได้แก่คดียุยงปลุกปั่นตามมาตรา 116 และฐานความผิดหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งตนมองว่าการใช้ตัวเองเป็นนายประกัน เชื่อว่าแม่จะเป็นหลักทรัพย์ที่สำคัญที่สุดของเพนกวิน

โดยก่อนหน้านี้ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน, นายอานนท์ นำภา, นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข และ นายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม หรือ  หมอลำแบงค์ แกนนำและแนวร่วมกลุ่มราษฎร ผู้ต้องหาคดีร่วมกันชุมนุมฯ เดินทางรายงานตัวต่อพนักงานอัยการตามนัด กรณีการชุมนุมเมื่อวันที่ 19-20 กันยายน 2563 ในข้อหาร่วมชุมนุมกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมที่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์-สนามหลวง (ปักหมุด) และดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112, ยุยงปลุกปั่นฯ ม.116 และข้อหาอื่นๆ

ศาลพิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหา และพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว เห็นว่าคดีมีอัตราโทษสูง จึงไม่อนญาตให้ปล่อยชั่วคราวยกคำร้อง และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัว นายพริษฐ์ กับพวกทั้งหมดไปคุมขังไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ

ต่อมาเวลา 1300 น. ศาลอาญามีคำสั่งว่า คดีนี้ผู้ร้องเคยยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว และศาลนี้ได้มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ผู้ร้องอุทธรณ์ และศาลอุทธรณ์มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว โดยให้เหตุผลว่า เกรงว่าจำเลยจะไปก่อเหตุร้ายอีก หลังจากนั้นผู้ร้องได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว และอุทธรณ์คำสั่งขอปล่อยชั่วคราวอีกหลายครั้ง

"ศาลนี้เห็นว่าการที่ศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว และได้ให้เหตุผลไว้แล้วศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามคำสั่งของศาลชั้นต้น ย่อมเป็นการยุติว่าคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวของศาลชั้นต้นนั้นถูกต้องแล้ว แม้กฎหมายจะอนุญาตให้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวใหม่ได้ แต่การยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวใหม่ซึ่งจะมีผลให้ศาลเปลี่ยนแปลงคำสั่งได้นั้น ต้องปรากฏว่าเป็นกรณีที่มีพฤติการณ์แห่งคดีได้เปลี่ยนแปลงไปไม่ว่าในเหตุลักษณะคดี เช่นมีการรวบรวมพยานหลักฐานแล้วปรากฏพยานหลักฐานเพิ่มเติม ตามประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญามาตรา 108 อนุสอง หรือมีพฤติการณ์เกี่ยวกับจำเลยอันแสดงว่าจำเลยนั้น จะไม่หลบหนีหรือไม่สามารถไปก่อเหตุร้ายอื่นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น หากไม่มีข้อเท็จจริงในทางคดีที่เปลี่ยนแปลงไป ย่อมไม่มีเหตุที่ศาลจะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเป็นอย่างอื่น"

ทั้งนี้ ศาลหาจำต้องระบุเหตุผลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 108/1 ใหม่ไม่ เพราะเท่ากับจะเป็นการคัดลอกข้อความที่ศาลนี้และศาลอุทธรณ์ได้เคยมีคำสั่งไว้แล้ว ยิ่งเมื่อศาลนี้ได้มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งยืนตามต่อเนื่องกันมาหลายครั้ง หากศาลจะมีการเปลี่ยนแปลงคำสั่งโดยไม่มีเหตุย่อมเป็นการวินิจฉัยคดีตามอำเภอใจ ไม่เป็นแนวทางที่ชอบด้วยกฎหมาย

ส่วนที่ผู้ร้องอ้างว่าจำเลยที่ 1 อาจเจ็บป่วยเพราะมีโรคประจำตัวนั้น ขณะนี้ยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าจำเลยที่ 1 มีอาการเจ็บป่วยจริงจนถึงขนาดไม่สามารถรักษาพยาบาลภายในเรือนจำได้ ส่วนที่จำเลยที่ 1 เป็นนักศึกษานั้นมีเพียงเหตุผลให้คาดคะเนได้ว่าจะไม่สะดวกในการศึกษาเล่าเรียนเท่านั้น ยังไม่มีข้อเท็จจริงชัดเจนว่าจะกระทบต่อการเรียนของจำเลยที่ 1 อย่างชัดเจนร้ายแรงอย่างไร

ส่วนการดูแลครอบครัวและการประกอบอาชีพของจำเลยอื่นก็เป็นเหตุความขัดข้องทั่วไปของบุคคลซึ่งต้องคดี ยังไม่มีข้อเท็จจริงที่เป็นรูปธรรมว่าจำเลยทั้งหมดได้รับความเสียหายเป็นพิเศษ จนถึงขนาดที่จะมีผลเพราะให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมด้วย เหตุนี้จึงไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมที่ศาลสั่งไว้โดยชอบแล้ว จึงยกคำร้อง