posttoday

ปชป.ยังไม่คุยปรับครม. ย้ำ "ถาวร" ยังเป็น ส.ส.

27 กุมภาพันธ์ 2564

“ราเมศ” เผย ปชป. ยังไม่คุยเรื่องปรับ ครม. ทุกคนร่วมกันลุยหาเสียงเลือกตั้งนครศรีธรรมราชช่วย “พงศ์สินธุ์ เสนพงศ์” ” ย้ำ "ถาวร" ยังเป็น ส.ส. ชอบด้วย รธน.

เมื่อวันที่ 27 กพ. 64 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงในส่วนของตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ที่มีนายถาวร เสนเนียม ส.ส. ของพรรคดำรงตำแหน่งอยู่นั้น เมื่อศาลมีคำพิพากษาแล้วก็มีความชัดเจนว่า มีคุณสมบัติต้องห้ามตามมาตรา 160(7) ที่จะต้องไม่เป็นผู้ต้องคำพิพากษาให้จำคุก แม้คดียังไม่ถึงที่สุด ดังนั้นอำนาจในการปรับคณะรัฐมนตรีเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ที่ขณะนี้ยังไม่มีการส่งสัญญาณใดๆ มาจากนายกรัฐมนตรี มายังหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค และขณะนี้เป็นช่วงปิดประชุมสมัยสามัญ ส.ส.ของพรรค และบุคลากรของพรรคกำลังอยู่ระหว่างการลงพื้นที่เพื่อรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ในเขตเลือกตั้งที่ 3 จังหวัดนครศรีธรรมราช จึงยังไม่มีการพูดคุยเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีในส่วนของพรรคว่าจะให้ผู้ใดมาดำรงตำแหน่งแทนตำแหน่งที่ว่างลง

“ทุกคนรวมกลุ่มกันเพื่อลงไปช่วยรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งให้กับ นายพงศ์สินธุ์ เสนพงศ์ ซึ่งเป็นผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ ในเขตเลือกตั้งที่ 3 จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งวันนี้ก็มีการจัดทีมลงไปหลายทีม และประชาชนให้การตอบรับเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องนโยบายของพรรค ที่ได้สื่อสารให้กับพี่น้องในพื้นที่ได้รับทราบว่าที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ มีนโยบายที่พรรคฯ ได้ประกาศ และผลักดันจนประสบความสำเร็จ” นายราเมศกล่าว

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องความสิ้นสุดสมาชิกภาพของความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่พรรคฯ มีสภาผู้แทนราษฎร 3 คน ปรากฏในคำพิพากษาให้มีโทษจำคุก และบางคนถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งเป็นเวลา 5 ปี โดยแยกได้เป็น 2 กรณี

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ศาลมีคำพิพากษาให้จำคุกงนายถาวร เสนเนียม อย่างเดียวนั้น นายถาวร ยังคงความเป็นสส.ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญทุกประการ หลังจากได้ตรวจดูข้อกฎหมาย และข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้ว พบว่าไม่เข้าลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ เหตุเพราะคดียังไม่ถึงที่สุด ซึ่งหลักกฎหมายระบุไว้ชัดในมาตรา 101 (13) ส่วนใครจะตีความเข้าวงเล็บอื่นนั้น ก็ไม่มีความกังวล เพราะได้ยืนยันว่าสมาชิกภาพความเป็น ส.ส.ของนายถาวรนั้น ยังคงอยู่ตามรัฐธรรมนูญทุกประการ ส่วน กกต. จะไปยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความหรือไม่นั้น ทางพรรคฯ ก็พร้อมที่จะชี้แจงศาลด้วยข้อเท็จจริง และหลักรัฐธรรมนูญอย่างเต็มที่

สำหรับ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคฯ อีก 2 คน ที่มีคำพิพากษาให้จำคุก และมีโทษที่ศาลกำหนดไว้ว่าให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง เป็นเวลา 5 ปี ประกอบด้วย นายชุมพล จุลใส สภาผู้แทนราษฎร ระบบเขต จังหวัดชุมพร และนายอิสสระ สมชัย สภาผู้แทนราษฎร ระบบบัญชีรายชื่อนั้น นายราเมศกล่าวว่า จะมีกระบวนการเดินไปตามรัฐธรรมนูญทุกประการ เมื่อทางสภาผู้แทนราษฎรทำหนังสือส่งไปให้ กกต. ทำการตรวจสอบ และจะมีการประชุมในสัปดาห์หน้า ดังนั้นจะต้องรอให้ กกต. วินิจฉัยในส่วนของ 2 ส.ส. นี้อย่างไร

ส่วนที่มีข้อสงสัยว่าหากที่มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรล่ารายชื่อเพื่อยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความตามมาตรา 82 ของรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น นายราเมศกล่าวว่า ตนยังไม่ทราบแต่ก็ไม่มีความกังวลแต่อย่างใด เพราะเป็นสิทธิ์ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่สามารถทำได้ตามมาตรา 82 มีจำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเท่าที่มีอยู่ ในส่วนของ นายอิสสระ สมชัย และนายชุมพล จุลใส นั้นก็เป็นกรณีเทียบเคียงกันได้กับนายเทพไท เสนพงศ์ แต่กรณีของนายถาวร เสนเนียมนั้น แตกต่างจากทุกกรณี จึงได้ย้ำว่า กรณีของนายถาวรนั้น ยังคงความเป็น ส.ส. ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญทุกประการ