ภท.แจงเหตุ วอล์กเอ้าท์ ลั่น รธน. สำคัญกว่า

เมื่อวันที่ 24 กพ. 64 การประชุมร่วมรัฐสภาที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาเป็นประธานการประชุม โดยทันทีที่เปิดประชุมนายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐเสนอให้เลื่อนวาระการประชุมโดยให้นำร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ ซึ่งยังพิจารณาไม่เสร็จขึ้นมาพิจารณาก่อน

ขณะที่นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส. บัญชีรายชื่อจากพรรคภูมิใจไทยพร้อมด้วยส.ส.พรรคภูมิใจไทยต่างลุกขึ้นยืนยันว่าควรพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญตามวาระก่อน และเป็นที่สังเกตว่าวันนี้ส.ส.พรรคภูมิใจไทยมาร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง เพื่อยืนยันให้เป็นไปตามระเบียบวาระ

ด้านนายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล ชี้แจงว่า ขออย่าวิตกเรื่องการเลื่อนระเบียบวาระ อย่ามองว่าเป็นการยื้อ อย่ามาใช้เรื่องนี้เพื่อหาเสียง เพราะหากไม่จบก็จะพิจารณาต่อในวันที่ 26 หรือ 27 ก.พ.เพราะปิดสมัยประชุมวันที่ 28 ก.พ. รัฐบาลไม่มียื้อ เพราะยืนยันมาตั้งแต่ก่อนรับหลักการ ในที่สุดที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้เลื่อนระเบียบวาระด้วยคะแนนเสียง 333 ต่อ 162เสียง งดออกเสียง 2 เสียงไม่ลงคะแนน 1 เสียง ภายหลังการลงมติ ส.ส. พรรคภูมิใจไทยทั้งหมดก็วอล์คเอาท์เดินออกจากห้องประชุมไป

ต่อมานายภราดร ปริศนานันทกุล โฆษกพรรคภูมิใจไทย พร้อมส.ส.พรรคภูมิใจไทย แถลงชี้แจง กรณีที่ลงมติไม่เห็นด้วยกับการเลื่อนระเบียบวาระการพิจารณาร่างพรบ.ตำรวจแห่งชาติ และร่างพรบ.ผลงานนวัตกรรมฯ ขึ้นมาพิจารณาก่อนร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการแสดงจุดยืนของพรรค ซึ่งพรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคแรกที่สนับสนุนและประกาศตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) จึงยืนยันเจตนารมย์เดิม ว่า เรื่องใดที่เป็นกระบวนการขัดขวางการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญจะไม่เห็นด้วย และเป็นที่มาของมติไม่เห็นด้วยกับการเสนอให้เลื่อนเรื่องอื่นมาพิจารณาก่อน แม้ว่าเรื่องของ พ.ร.บ.ตำรวจและเรื่องนวัตกรรมมีความสำคัญ แต่พรรคให้ความสำคัญกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นอันดับแรก

นายภราดร กล่าวอีกว่าในระเบียบวาระยังไม่ได้มีการนัดหมายเพิ่มวันประชุมในวันศุกร์ อีกครั้งเหลือเวลาการประชุมร่วมรัฐสภาอีกเพียง 2 วันขณะที่มีคนแปรญัตติไว้จำนวนมาก จึงเป็นห่วงว่าเวลาจะไม่เพียงพอ และกังวลว่าจะมีกระบวนการที่จะดึงรั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เดินหน้าหรือไม่ เพราะพฤติกรรมที่ผ่านมาของแต่ละพรรคได้แสดงให้เห็นอยู่แล้วว่าพรรคใดมีเจตนาอย่างไร ยืนยันว่าการที่ ส.ส.พรรคเดินออกจากห้องประชุม หรือ วอล์คเอ้าท์ ไม่เกี่ยวกับกรณีที่ไม่พอใจการที่ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐบางคนงดออกเสียงในญัตติไม่ไว้วางใจ

ส่วนเมื่อถามว่ามีสัญญาณอะไรจากรัฐบาลให้ชะลอการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่าไม่มีและไม่ทราบ