ปชป.ขู่ถอนตัวพรรคร่วมหากพปชร.ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งซ่อมส.ส.นครศรีฯ

นายวิทยา แก้วภราดัย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า สิ่งที่น่ากังวลเรื่องการส่งผ้สมัครรับเลือกตั้งซ่อมสส.แทนตำแหน่งที่ว่าหลังจากที่นายเทพไท เสนพงศ์ ถูกศาลรธน.วินิจฉัยให้สิ้นสภาพส.ส.เพราะถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งและจำคุกในคดีทุจริตเลือกตั้งนายกอบจ.นครศรีธรรมราช คือการออกมาแสดงความคิดเห็นของ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพราะโดยธรรมเนียมปฏิบัติทางการเมืองจะถือกันเป็นมารยาทว่า กรณีที่จะมีการเลือกตั้งซ่อมในเขตใดเขตหนึ่งซึ่งเขตที่พรรคร่วมรัฐบาล เคยเป็นอยู่แล้วมาเลือกซ่อมแทนจะมอบหมายให้เจ้าของพื้นที่เดิมเป็นคนลงสมัครรับเลือกตั้ง

“สิ่งที่ต้องทำคือการรักษาเสียงรัฐบาลไม่ใช่การรักษาเสียงพรรค เพราะบางครั้งมันอาจนำไปสู่ปรากฏการไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้ สิ่งที่ควรทำคือการหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดว่าใครจะต้องเป็นผู้สมัคร หากถือตามธรรมเนียมต้องให้ประชาธิปัตย์ หากไม่หารือแล้วตัดสินใจตามการยุแยงลูกพรรค ก็จะเห็นปรากฏการณ์ที่ไม่ปกติ หากทุกพรรคส่งประชาธิปัตย์ต้องทบทวนตัวเอง และหากรัฐบาลส่งผู้สมัครทั้ง 3 พรรค ประชาธิปัตย์ อาจจะต้องบอกว่าขอทบทวนตัวเองควรลาออกจากรัฐบาลดีกว่า ดีกว่าเลือกตั้งแล้วเขาต้องไล่เราออก” นายวิทยา กล่าว

ทั้งนี้ขอเสนอให้ พล.อ.ประวิตรในฐานะผู้จัดการรัฐบาลตั้งหลัก ต้องนัดพรรคร่วมรัฐบาลหารือกัน การเลือกตั้งนครศรีธรรมราชต้องให้พรรคไหนสักพรรคหนึ่ง มันเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ทำกันมาเพื่อรักษาเสถียรภาพของรัฐบาล ต้องจัดการในฐานะผู้จัดการรัฐบาลหากหัวหน้าพรรคประชารัฐจัดการไม่ได้ต้องขอร้องนายกรัฐมนตรีลงมาแก้ปัญหา หากปล่อยให้ต่างคนต่างลงบอกเลยว่าอายุรัฐบาลต้องเริ่มนับถอยหลัง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการเตรียมตัวการเสนอชื่อผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ขณะนี้ มีกระแสข่าวว่ามีผู้ที่เหมาะสมที่ถูกมองไว้หลายคนด้วยกัน คือนายพงศ์สินธ์ เสนพงศ์ น้องชายของนายเทพไท เสนพงศ์ , นายเชาว์ มีขวด , นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ , นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ , น.ส.นริศา อดิเทพวรพันธ์ เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดยังหาข้อยุติไม่ได้ โดยจะต้องมีกระบวนการสรรหาเสนอรายชื่อตามขั้นตอน แต่ทว่านายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ ปรากฏชื่อเป็นประธานคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครอยู่แล้ว.