posttoday

พปชร.โต้ "เพื่อไทย" ใช้วันปีใหม่คิดทบทวนผลงานตัวเองก่อนให้ร้าย "นายกฯ"

01 มกราคม 2564

รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ สวนกลับ “อนุสรณ์” ใช้เวลาในวันเริ่มต้นปีคิดทบทวนตัวเอง ทำอะไรเพื่อประชาชน ชี้โพลยก “บิ๊กตู่” เป็นนักการเมืองแห่งปี ชูผลงานแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบไม่ล้มเหลวเหมือนรัฐบาลที่ผ่านมา

นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.เขต 2 จ.นครศรีธรรมราช ในฐานะรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า กรณีที่ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงของขวัญปีใหม่ที่ประชาชนอยากได้คือการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ลาออก นั้น ตนมองว่าที่ผ่านมา หากนายอนุสรณ์ไม่มีจิตใจเอนเอียง จะเห็นได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้ทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ ทั้งการบริหารงานด้านเศรษฐกิจ สังคม และการแก้ไขปัญหาการระบาดของไวรัสโวคิด-19

ทั้งนี้การอ้างว่าประชาชนอยากได้ของขวัญปีใหม่ คือการที่นายกฯลาออก นั้น สวนทางกับผลสำรวจ “ที่สุดแห่งปี” ของสวนดุสิตโพล ของมหาวิทยาลลัยสวนดุสิต ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ กลับได้รับความนิยมจากประชาชน โดยรับการโหวตให้เป็นนักการเมืองชายที่ประชาชนชื่นชอบมากที่สุด

ขณะที่การดำเนินนโยบายด้านการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และการดูแลพี่น้องประชาชน ยังได้รับเสียงชื่นชมจากประชาชนอย่างต่อเนื่อง ทั้งโครงการ “เราไม่ทิ้งกัน” ซึ่งอนุมัติเงินช่วยเหลือประชาชน 14 ล้านคน ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 รายละ 15,000 บาท โครงการประกันรายได้สินค้าทางการเกษตร ข้าว มันสำปะหลัง ปาล์ม ยางพารา และอ้อย ซึ่งมีเกษตรกรได้รับประโยชน์กว่า 5 ล้านครัวเรือน และโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีผู้มีรายได้น้อย 14 ล้านคนได้รับประโยชน์

นอกจากนี้ยังมีโครงการกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ อย่าง “คนละครึ่ง” ,“ช้อปดีมีคืน” และการเติมเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเติมให้กับผู้มีรายได้น้อย ซึ่งต่างได้รับความชื่นชมทั้งจากประชาชน ผู้บริโภค พ่อค้าแม่ค้ารายย่อย รวมไปถึงผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรม โดยผลสำรวจจาก ส.อ.ท. สามารถยืนยันได้ว่า ผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นว่านโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจ ทั้ง “คนละครึ่ง” ,”ช้อปดีมีคืน” และการเติมเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ถือเป็นโครงการที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ

“ตามที่นายอนุสรณ์กล่าวอ้างว่า โครงการของรัฐบาลนั้น เข้าถึงได้ยาก หรือเข้าถึงได้เฉพาะกลุ่ม และจะต้องเข้าถึงด้วยการลงทะเบียนนั้น เป็นเพราะการป้องกันไม่ให้เกิด “ผี” ขึ้น เพราะเมื่อมีการลงทะเบียนระบุตัวตนที่ชัดเจน จะสามารถยืนยันว่าโครงการที่ทำนั้นเข้าถึงกลุ่มหมายที่แท้จริงได้ และป้องกันการทุจริต มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ไม่เหมือนโครงการจำนำข้าวที่พบว่ามีการทุจริตกันมโหฬาร” นายสัณหพจน์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้นายอนุสรณ์ ได้ใช้เวลาในช่วงวันขึ้นปีใหม่นี้ ซึ่งรัฐบาลกำลังรณรงค์ให้ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ได้คิดทบทวนถึงผลงานในปีที่ผ่านมาของตัวเอง ว่าเป็นอย่างไร ได้มีส่วนช่วยเหลือพี่น้องประชาชนคนไทยไปแล้วมากน้อยแค่ไหน เพื่อที่จะปรับปรุงหรือเพิ่มเติมให้มากยิ่งขึ้นในปีใหม่ 2564