posttoday

"สิระ"ปัดเอี่ยวบ่อนแจ้งวัฒนะ ฉะฝ่ายค้านอย่านำการเมืองโจมตีช่วงโควิด

30 ธันวาคม 2563

“สิระ” ยัน ไม่มีเอี่ยวบ่อนแจ้งวัฒนะเชื่อมาตอนเปลี่ยนผกก. จี้ สอบฝ่ายปกครอง อาจรู้เห็นอย่าพุ่งเป้าแค่ตำรวจ รับเคยเสียคนเพราะการพนันมาก่อน ฉะ ฝ่ายค้าน มีปากเก็บไว้กินข้าว อย่าเอาเรื่องการเมืองมาโจมตีในช่วงโควิด-19 ย้ำ รธน.แก้เสร็จในรัฐบาลนี้แน่นอน

เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการจับกุมบ่อนการพนันในพื้นที่แจ้งวัฒนะ ว่า บ่อนนี้เพิ่งเปิดในช่วงการปรับเปลี่ยนผู้กำกับใหม่ ในช่วงที่ผ่านมาก็ไม่มีใครแจ้งว่ามีบ่อนการพนันในพื้นที่ แต่เมื่อมีผู้กำกับคนใหม่ย้ายมาก็ยังไม่ได้พูดคุยกัน จากนี้จะได้นัดมาพูดคุยการทำงานร่วมกันกับ ส.ส.ในพื้นที่ ตนยอมรับไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะในพื้นที่ ตอนที่ผู้กำกับท่านเดิมอยู่ก็ไม่เคยมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น

“ผมเคยเสียผู้เสียคน เสียลูกเสียเมีย เพราะการพนัน ดังนั้นผมจึงแสดงจุดยืนมาโดยตลอดในการต่อต้านการพนัน เพราะไม่อยากให้ผู้บริสุทธิ์มาเดือดร้อนจากการพนัน ซึ่งขอให้เชื่อมั่นว่า ผมไม่ปล่อยให้เกิดบ่อนการพนันในพื้นที่ผมแน่นอน ส่วนคนที่บอกว่าผมมีส่วนรับรู้กับบ่อนแจ้งวัฒนะนั้น ผมยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ถ้าผมรู้ ผมไม่ยอมให้มีแน่นอน เพราะผมเป็นปรปักษ์กับบ่อนอย่างชัดเจน และหากประชาชนหรือสื่อมีข้อมูลบ่อนการพนันที่ใดก็ขอให้แจ้งมา ผมไม่มีกองกำลัง แต่ผมพร้อมจะไปตรวจสอบทำหน้าที่ ส.ส.ให้แก่ประชาชน” นายสิระ กล่าว

นายสิระ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พ.ศ. ..กล่าวถึงกรณีที่พรรคฝ่ายค้าน ออกมากล่าวว่า การที่ กมธ.งดการประชุมครั้งที่ผ่านมา เป็นเตะถ่วงให้ล่าช้านั้น ตนขอเรียนว่า อย่าเอาเรื่องการเมืองมาโจมตีกัน มีปากก็เอาไว้กินข้าวบ้าง ขอให้คิดถึงประโยชน์ของบ้านเมืองและสาธารณะ การงดประชุมเพราะเกิดการแพร่ระบาดของโควิด ถ้าเปิดให้มีการประชุมแล้วมีการติดไวรัสโควิด จะเกิดความเสียหายหรือไม่ ทั้งนี้ ตนยืนยันว่า การแก้รัฐธรรมนูญทำเสร็จภายในรัฐบาลชุดนี้อย่างแน่นอน

นายสิระ กล่าวต่อว่า ส่วนการประชุมสภาที่จะมีขึ้นในวันที่ 6-7 ม.ค.นี้ ตนขอให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ พิจารณาจากสถานการณ์ความรุนแรงของการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด ถ้าสถานการณ์ยังรุนแรง ตนขอให้มีการเลื่อนการประชุมออกไปก่อน หรือมีวิธีไหนที่จะสามารถประชุมด้วยวิธีอื่นหรือไม่ เพราะการประขุมในแต่ละครั้ง ไม่ได้มีเฉพาะ ส.ส.500 คน แต่มีทั้งข้าราชการ คนติดตาม กว่า 1000 คน ที่จะต้องไปรวมตัวกันที่อาคารรัฐสภา ไม่ได้แตกต่างอะไรจากจำนวนคนเยอะๆในบ่อนการพนันเลย เพราะหากมีผู้ติดเชื้อโควิดขึ้นมา จะรับผิดชอบไหวหรือไม่