posttoday

เด็กพปชร. โต้ "อนุสรณ์" แนะทำงานแก้ปัญหาปชช.ดีกว่าจ้องดิสเครดิตรบ.

28 พฤศจิกายน 2563

"ทิพานัน" อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ เชื่อ"บิ๊กตู่"ไม่สนเสียงนกเสียงกา ชี้ "อนุสรณ์"มุกแป้ก ย้อนเพื่อไทยหากอยากให้ประชาชนมีความสุข ให้ลงมือทำงานแก้ปัญหาปากท้องชาวบ้าน อย่าจ้องแต่ดิสเครดิตรัฐบาล

เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 63 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตผู้สมัครส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกมาแนะให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถ้าไม่มีความสุขให้ลาออกไปว่ส พล.อ.ประยุทธ์ มีอุดมการณ์ที่มุ่งมั่นเพื่อประคับประคองให้ประเทศชาติผ่านพ้นวิกฤติ เพื่อความสุขของประชาชน หากประชาชนมีความสุขท่านก็มีความสุข หากไม่มีท่านก็ไม่ด้วย ทุกวันนี้จึงอดทนและหนักแน่นไม่สนเสียงนกเสียงกาที่ร้องแบบไม่มีประโยชน์ หาสาระเนื้อหาไม่ได้ แม้พรรคเพื่อไทยจะเปลี่ยนหน้ากันออกมาสื่อสารในประเด็นเดียวกันต่อสังคม คือกดดันให้พล.อ.ประยุทธ์ลาออกจากตำแหน่ง เหมือนท่องคาถากันมาจึงไม่เป็นผล เพราะไม่มีเหตุปัจจัยใดที่ทำให้ประชาชนคล้อยตามได้เลย  เพราะบรรยากาศในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 ที่เศรษฐกิจไทยกำลังเริ่มฟื้นตัวจากพิษโควิด มาตรการต่างๆที่กระตุ้นเศรษฐกิจกำลังเห็นผล โดยเฉพาะโครงการคนละครึ่ง ที่ทำให้เกิดกระแส "รักลุงตู่" และอยากให้ "ลุงตู่อยู่ต่อ" ข้อเรียกร้องของนายอนุสรณ์ จึงสวนทางกับความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ที่ต้องการให้เศรษฐกิจฟื้นตัว ขอให้ท่านนายกฯ อยู่ต่อ มุกเดิมๆของพรรคเพื่อไทยทีหวังโหนกระแสม็อบ จึงกลายเป็นมุกแป้กไปโดยปริยาย

"นายอนุสรณ์อ้างว่าเมื่อคณะราษฎร2563 ซ้อมต้านรัฐประหารแล้ว ให้พล.อ.ประยุทธ์ และเครือข่าย น่าจะลองซ้อม หาแนวทางถอยออกจากตำแหน่ง คนไทยน่าจะมีความสุขมากขึ้น ประโยคนี้พรรคฝ่ายค้าน อย่างพรรคเพื่อไทยต่างหากที่จะต้องนำไปทบทวน หากเห็นแก่ความสุขของประชาชนจริง ให้อดทนอดกลั้นต่อความปรารถนาที่จะช่วงชิงอำนาจเอาไว้ก่อน ช่วยกันดูแลทุกข์สุขของประชาชน ประคับประคองให้ประเทศชาติผ่านพันวิกฤติเศรษฐกิจ อีกไม่นานเมื่อครบเทอมแล้วก็จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นอยู่ดี เพราะหากขืนดันทุรังเล่นเกมการเมือง จ้องดิสเดครดิตรัฐบาลมากๆ โดยไม่มุ่งลงมือทำงานเพื่อปากท้องชาวบ้านอยู่แบบนี้ ประชาชนก็จะไม่มีความสุขเป็นแน่" น.ส.ทิพานัน กล่าว

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ตนเห็นใจพรรคเพื่อไทย เพราะสถานการณ์ต่างๆของประเทศกำลังดีขึ้นจึงอาจจะอยู่เฉยไม่ได้ โดยเฉพาะสถานการณการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ที่ความสำเร็จของประเทศไทยในการควบคุมโรค ทำให้ไทยกำลังเตรียมตัวสำหรับเฟสถัดไป ในการบริหารจัดการกับสถานการณ์เพื่อไม่ให้สร้างปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง และความยากลำบากในความเป็นอยู่ของประชาชน โดยเฉพาะมีการลงนามในสัญญาสั่งจองวัคซีนแล้ว คาดว่าจะสามารถใช้ได้กลางปี 2564 ย่อมเป็นโอกาสที่จะฟื้นตัวอย่างก้าวกระโดด เป็นประเทศที่จะปลอดภัยจากเชื้อก่อนหลายประเทศ ดังนั้นจะเห็นว่ารัฐบาลกำลังเดินหน้าแก้ไข ปรับปรุง พัฒนาเต็มระบบ จึงอยากให้พรรคเพื่อไทยซ้อมความเข้าใจตรงนี้อย่างรอบด้านด้วย